อุบลราชธานี - เพื่อนแรงงานสาวไทยเก็บผลไม้ในเกาหลีใต้ โพสต์เฟซบุ๊กขอความช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล หลังเพื่อนล้มป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด สงสัยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ด้านนายจ้างชาวเกาหลียอมจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาล แต่ให้สามีคนป่วยทำงานใช้หนี้แทน ด้านญาติเตรียมเดินเรื่องกระทรวงการต่างประเทศพาตัวกลับมารักษาที่เมืองไทย
สืบเนื่องจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Nuch Pupar โพสต์รูปภาพหญิงสาวนอนป่วยในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ พร้อมระบุข้อความ “ขอความช่วยเหลือจากพี่น้องชาวไทย น้องชื่อ น.ส.สุพิศ ผาลัง ชาว อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี มาทำงานที่เกาหลีใต้ (แบบไม่วีซ่า) แต่ตอนนี้ป่วยเป็นมะเร็งและติดเชื้อในกระแสเลือด เข้ารักษาที่โรงพยาบาลในกรุงโซล ตอนนี้รอญาติที่ไทยเซ็นทำคีโมให้น้อง แต่ค่ารักษาพยาบาลน้องแป้งอยู่ที่ 4 ล้านวอน อยากให้กลับไปรักษาที่ไทย แต่ไปไม่ได้เพราะอาการหนัก ขอความกรุณาช่วยบริจาคช่วยน้องคนละนิดคนละหน่อยด้วยนะคะ” ซึ่งมีการแชร์โพสต์นี้ไปแล้วกว่า 5,000 ครั้ง
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ น.ส.สุวนิตย์ ผาลัง อายุ 25 ปี น้องของ น.ส.สุพิศ โดยน.ส.สุวนิตย์น้องสาวเล่าให้ฟังว่า พี่สาวและสามีไปทำงานเก็บผลไม้ที่ประเทศเกาหลีใต้กว่า 3 ปี เพื่อส่งเงินมาสร้างบ้านให้พ่อแม่และญาติอยู่อาศัย พร้อมทั้งเลี้ยงดูครอบครัว ต่อมาเมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา พี่สาวได้หมดสติและล้มป่วยซึ่งนายจ้างได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล
แพทย์เกาหลีได้รักษาจนเริ่มมีอาการดีขึ้น ขณะนี้สามารถพูดคุยได้แล้ว แต่ค่ารักษาพยาบาลที่แพงกว่า 1 แสนบาททำให้ที่พี่สาวอยากจะย้ายออกจากโรงพยาบาล แต่ทางแพทย์ไม่ยอมจนกว่าสถานทูตไทยจะเดินเรื่องเอกสารให้เสร็จสมบูรณ์ก่อน จึงอยากวอนให้หน่วยงานรัฐช่วยเดินเรื่องประสานนำตัวพี่สาวกลับมารักษาตัวที่ประเทศไทยเพื่อให้ญาติพี่น้องในประเทศไทยช่วยกันดูแล
สำหรับค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลที่ผ่านมา นายจ้างชาวเกาหลีจะเป็นผู้ออกให้ก่อนโดยสามีของพี่สาวจะอยู่ทำงานใช้หนี้ต่อไปจนครบ ซึ่งในวันจันทร์ 15 พ.ค.นี้ น.ส.สุวนิตย์จะเดินทางไปขอความช่วยเหลือกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้ช่วยประสานนำพี่สาวกลับมาประเทศไทยด้วย
ล่าสุดเมื่อค่ำวันที่ 13 พ.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อว่า Nuch Pupar ได้โพสต์ภาพนางสาวสุพิศนั่งบนเตียงคนไข้พร้อมข้อความ “แจ้งข่าวน้องแป้งนะคะ ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความช่วยเหลือน้องทั้งกำลังใจที่มีให้น้องทางทีมแพทย์ได้ทำการตรวจอย่างละเอียด ไม่พบเชื้อมะเร็ง ไม่ต้องทำคีโมแล้วนะคะ แต่ก็ยังติดเชื้อในกระแสเลือด และอาการของน้องดีขึ้นเรื่อยๆ ยอดบริจาคตอนนี้อยู่ที่ 1,191,705 วอนค่ะ”