บุกจับร้านนวดสปาพัทยาแฝงบำเรอกาม

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง สนธิกำลังทหาร และตำรวจ บุกจับร้านสปาพัทยา แฝงสาวค้ากาม เจ้าของร้านปัดไม่มีส่วนรู้เห็น เป็นความพอใจระหว่างลูกค้ากับพนักงาน

วานนี้ (13 พ.ค.) นายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง ได้รับการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางละมุง ว่า ที่ร้านกู๊ดแฟรนด์ มาสสาจ เลขที่ 15/1 ตั้งอยู่ริมถนนพัทยาสายสาม ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีการลักลอบขายบริการทางเพศ จึงสั่งการให้ นายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สนธิกำลังร่วมทหาร ร.21 พัน.1 รอ. และตำรวจ สภ.เมืองพัทยา วางแผนส่งสายลับนำเงินสด จำนวน 3,000 บาท ที่ลงบันทึกประจำวันไว้เข้าไปทำการล่อซื้อ

เมื่อไปถึงพบว่าร้านดังกล่าวเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ตั้งอยู่ใจกลางเมืองพัทยา หลังจากสายลับส่งสัญญาณ เจ้าหน้าที่กำลังซุ่มอยู่บริเวณดังกล่าวจึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที โดยบริเวณชั้นล่างตกแต่งเป็นลักษณะร้านนวดสปาทั่วไป พบพนักงานสาวนวดสปาทั้งหมด 9 คน นั่งคอยต้อนรับลูกค้าอยู่

จากนั้นได้ขึ้นไปตรวจสอบบริเวณชั้น 2 และชั้น 3 พบว่า ถูกดัดแปลงเป็นห้องพักออกเป็น 6 ห้อง จากการตรวจสอบห้องพักหมายเลข 2 พบ น.ส.กบ (นามสมมติ) อายุ 23 ปี กำลังเปลือยกายนอนอยู่บนเตียงกับสายลับ พร้อมถุงยางอนามัย และตะกร้าใส่เจลหล่อลื่น ครีมอาบน้ำ

นอกจากนี้ ยังตรวจพบเงินสดที่ใช้ในการล่อซื้อ จำนวน 2,500 บาท ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงของพนักงานสาว ส่วนเงินอีก 500 บาท อยู่ในลิ้นชักเก็บเงินบริเวณเคาน์เตอร์แคชเชียร์ของร้าน จึงทำการอายัดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน โดยมี นายอดิศร วรวุฒิวิมล อายุ 35 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของร้าน

เบื้องต้น นายอดิศร เจ้าของกิจการให้การอ้างว่า ทางร้านยืนยันว่าไม่มีการค้าประเวณีอย่างแน่นอน เนื่องจากจะประชุมพนักงานเป็นประจำทุกเดือน โดยสั่งห้ามไม่ให้มีการค้าประเวณีเกิดขึ้น เพราะร้านเป็นร้านนวดสปา ส่วนเรื่องการค้าประเวณีนั้นอาจจะเป็นความพึงพอใจระหว่างลูกค้ากับพนักงานที่ตกลงกันเอง ซึ่งทางร้านไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนเงินที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบในลิ้นชักนั้นเป็นเงินค่านวดสปา ไม่ใช่ส่วนแบ่งการค้าประเวณี

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของเจ้าของร้าน เพราะว่าหลังจากได้รับการร้องเรียนได้มีการส่งสายลับเข้าไปหาข่าวจนแน่ชัดว่ามีการค้าประเวณีจริง จึงสนธิกำลังเข้าจับกุม และเชื่อว่าจะสามารถดำเนินคดีเอาผิดต่อเจ้าของร้านได้อย่างแน่นอน และถ้าหากผู้ประกอบการแห่งใดยังฝ่าฝืนมีการลักลอบค้าประเวณีอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ก็จะถูกดำเนินคดีแบบไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน