กาฬสินธุ์ - เกิดกระแสวิพากษ์โครงการ 3 ดีหลายสิบล้าน ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์เป็นเจ้าภาพหลัก จัดซื้ออุปกรณ์ครุภัณฑ์ปศุสัตว์ และเครื่องมือเกษตร ขณะที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้นำชุมชนไม่ทราบเรื่อง ระบุไม่เคยรู้ว่าโครงการ 3 ดี ได้จัดซื้อเครื่องมือการเกษตร พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่ที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส
จากกรณีปราชญ์ชาวบ้านใน จ.กาฬสินธุ์ โวยปราชญ์โครงการ 3 ดี ส่อผลาญงบประมาณแผ่นดิน หลายสิบล้านบาท สาเหตุไม่ต่อยอดศูนย์ปราชญ์ต้นแบบ แต่กลับจัดตั้งศูนย์ปราชญ์หน้าใหม่ มาจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการเกษตร เรียกร้อง ปปท. สตง. และ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (12 พ.ค.) ที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลนาดี อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พ.จ.ต.รังสันต์ ภูกองไชย หัวหน้าสำนักปลัด อบต.นาดี และนายตระกูล ภูจีระ กำนันตำบลนาดี ร่วมกันพิจารณาเอกสารโครงการตามแนวทางการสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้แก่เศรษฐกิจภายในประเทศ จ.กาฬสินธุ์ หลังเกิดกระแสข่าวว่า มีงบประมาณโครงการดังกล่าวมาลงพื้นที่ ต.นาดี แต่ยังไม่มีความชัดเจน พร้อมยืนยันทั้งในส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้นำชุมชนไม่ทราบเรื่อง
พ.จ.ต.รังสันต์ ภูกองไชย หัวหน้าสำนักปลัด อบต.นาดี กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเชื่อว่าน่าจะเป็นการต่อยอดโครงการ 3 ดี คนดี สุขภาพดี รายได้ดี ที่ จ.กาฬสินธุ์ ทำมาตั้งแต่ปี 2555 มีสำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ เป็นเจ้าภาพหลัก และมีการบูรณาการกับส่วนราชการอื่นๆ เช่น เกษตรจังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำศาสนา และปราชญ์ชาวบ้าน ซึ่งเกิดผลดีต่อภาพรวมในชุมชน โดยเฉพาะการลดเหล้า ลดการเล่นการพนันในงานศพงานบุญ ชาวบ้านหันมาสนใจสุขภาพตนเอง และลดรายจ่ายในครัวเรือน เช่น ปลูกผักปลอดสารพิษบริโภคในครัวเรือน ลดการใช้ปุ๋ยเคมี และสารเคมีในการเกษตรกรรม เป็นต้น
แต่การขับเคลื่อนโครงการ 3 ดี ในปีนี้กลับดูเงียบไป อบต.นาดี แทบไม่ได้ทราบความเคลื่อนไหว ว่าจะต่อยอดรูปแบบใด เพราะไม่ได้รับการประสานจากหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการ แต่กลับมีคนนำเอกสารโครงการมาแจ้งว่า จะมีครุภัณฑ์ และอุปกรณ์ต่างๆ มาลงพื้นที่ ต.นาดี จำนวนมาก จากการตรวจสอบตามรายการที่แสดงในเอกสารมีมูลค่านับสิบล้านบาท ซึ่งสร้างความสงสัยให้แก่ตน และผู้บริหารท้องถิ่นมาก จึงสอบถามไปฝ่ายปกครอง และชาวบ้าน เพื่อติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
ด้าน นายตระกูล ภูจีระ กำนันตำบลนาดี อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการดูรายละเอียดในเอกสารโครงการดังกล่าว ทราบว่า มีการจัดสรรงบประมาณจัดซื้อครุภัณฑ์ด้านการปศุสัตว์และการเกษตรให้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ใน 4 อำเภอ คือ ต.นาดี อ.ยางตลาด ต.ฆ้องชัยพัฒนา อ.ฆ้องชัย ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย และ ต.โนนน้ำเกลี้ยง อ.สหัสขันธ์ รายการที่จัดซื้อมีเครื่องอัดฟาง 1 เครื่อง แม่พันธุ์โค 10 ตัว แม่พันธุ์กระบือ 7 ตัว เครื่องสีข้าวกล้อง 10 เครื่อง รถแทรกเตอร์ไถนา 5 คัน และรถเกี่ยวข้าว 3 คัน รวมมูลค่า 10,580,000 บาท
ทันทีที่เห็นเอกสาร และรายการดังกล่าวรู้สึกงงมาก เนื่องจากไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าจะมีครุภัณฑ์หรืออุปกรณ์การเกษตรมาลงพื้นที่ เพราะไม่มีหน่วยงานใดประสานมาให้ฝ่ายปกครอง และผู้นำชุมชนทราบเรื่อง เป็นเรื่องผิดสังเกต เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมาก บ้างว่าเป็นข่าวลือ อย่างไรก็ตามเ พื่อความชัดเจนจะได้ประสานผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน และเครือข่ายโครงการ 3 ดีใน 4 อำเภอ ติดตามหาครุภัณฑ์ว่ามาลงพื้นที่จริงหรือไม่ และเท็จจริงโครงการเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการบริหารงบประมาณแผ่นดิน ไม่เกิดช่องว่างให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งฉวยโอกาสเอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเอง และพวกพ้อง เพราะตามที่สังเกตจะเห็นว่าผู้เขียนโครงการได้เทงบประมาณในการจัดซื้อครุภัณฑ์ไปกระจุกอยู่เพียง 4 กลุ่ม และเป็นกลุ่มที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะได้ร่วมกับผู้นำทุกหมู่บ้านเร่งตรวจสอบหาคำตอบให้ชัดเจนในเร็ววันนี้
อย่างไรก็ตาม จากการจากการตรวจสอบของผู้นำชุมชนทราบว่า โครงการดังกล่าวเป็นการจัดซื้อจัดจ้างโดยงบประมาณจากแผนปฏิบัติราชการจังหวัด ที่จัดสรรให้โครงการ 3 ดี ปีละประมาณ 20 ล้านบาทต่อเนื่องมาหลายปี และในปี 2559 ได้รับจัดสรรประมาณ 10 ล้านบาท ล่าสุด ในเขต ต.นาดี อ.ยางตลาด ได้นำเครื่องสีข้าวกล้องมาลงที่ศูนย์วิสาหกิจชุมชนที่จัดตั้งขึ้นใหม่แล้ว ขณะที่ศูนย์อื่นๆ ยังไม่ทราบผลว่ามีอุปกรณ์เครื่องมือการเกษตรมาจริงหรือไม่ ชาวบ้านจึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สตง.ปปท.เข้ามาตรวจสอบการดำเนินการครั้งนี้ และตรวจสอบงบประมาณย้อนหลังทั้งปี 2558 และปี 2559 ด้วย
