อุบลราชธานี - พนักงานสอบสวนเตรียมคัดค้านการประกันตัวพ่อเลี้ยงโหด เกรงไปข่มขู่พยานและหลบหนี พร้อมแจ้งญาติเด็กเสียชีวิตทราบถึงสิทธิการฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมทางแพ่งจากพ่อเลี้ยง และให้นำเอกสารยื่นขอรับสิทธิเยียวยาผู้ถูกกระทำความรุนแรงจนเสียชีวิตจากกระทรวงยุติธรรม 1 แสนบาทด้วย
จากกรณี ด.ช.ระพีภัทร สาแล๊ะ อายุ 2 ขวบเศษ ถูกนายจิรันตน์ หรือเหน่ง ปันสวน อายุ 24 ปี พ่อเลี้ยงทำร้ายจนตับแตก มีเลือดคั่งในสมอง นำไปสู่การจับกุมผู้เกี่ยวข้องทั้งเพื่อนพ่อเลี้ยงที่พักอยู่ในห้อง ข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ต่อมาได้จับกุมลูกพี่และแม่ของเด็กข้อหาร่วมกันช่วยผู้อื่นที่กระทำผิด เพื่อไม่ให้ต้องได้รับโทษ และชุดสืบสวนกองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจสืบสวนภาค 3 ตามจับตัวนายจิรันตน์ ขณะหลบซ่อนอยู่ในกรุงเทพฯมาดำเนินคดีตามเสนอข่าวแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (12 พ.ค.) ภายหลัง พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุบลราชธานี ซึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีนี้ ได้นำตัวนายจิรันตน์ หรือเหน่ง ปันสวน อายุ 24 ปี พ่อเลี้ยงมาสอบปากคำ พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ซึ่งนายจิรันตน์ให้การรับสารภาพ โดยยืนยันใช้สันมือตีที่ใบหน้าและใช้กำปั้นต่อยที่หน้าท้องเด็ก 3-4 ทีจนเป็นเหตุให้ ด.ช.ระพีภัทร ตับแตกและเยื่อหุ้มลำไส้อาหารฉีกขาด และแผ่นหลังเป็นรอยช้ำจากรอยกด
ส่วนบาดแผลบริเวณศีรษะรวม 2 จุด ทำให้มีเลือดคั่งอยู่ในสมองของ ด.ช.ระพีภัทร นายจิรันตน์ให้การว่าได้ใช้สันมือตีเด็กไปก่อนหน้าจะเสียชีวิต 2-3 วัน
สำหรับสาเหตุที่กระทำความรุนแรงต่อ ด.ช.ระพีภัทร นายจิรันตน์ให้การว่าโกรธที่เด็กฉี่ใส่ที่นอนและกระเด็นมาถูกนายจิรันตน์ ซึ่งนอนอยู่ใกล้กัน จึงใช้สันมือตีที่หน้าและใช้มือชกที่ท้องจนเด็กสลบแน่นิ่ง และอุจจาระแตก จึงอุ้มตัวเด็กเข้าไปล้างก้นในห้องน้ำ และสังเกตว่าขณะนั้นเด็กไม่หายใจแล้ว จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
โดยนายจิรันตน์ยืนยันว่า ขณะที่ตนทำร้ายลูกเลี้ยงเกิดขึ้นเวลาประมาณ 10.00 น.เศษ ซึ่งนายสุวิชาญเพื่อนร่วมห้องพักไม่มีส่วนรู้เห็น เพราะออกจากห้องพักไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้ว
หลังการสอบสวนปากคำนายจิรันตน์เรียบร้อยพนักงานสอบสวนได้คุมตัวไปอยู่ในห้องควบคุมของสถานี เพื่อรอนำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดอุบลราชธานีช่วงสายของวันที่ 13 พ.ค.นี้ และพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการขอประกันตัวนายจิรันตน์ระหว่างรอการดำเนินคดี เนื่องจากเกรงว่านายจิรันตน์จะไปข่มขู่ หรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน รวมทั้งโทษมีอัตราสูงเกรงหากได้ประกันตัวผู้ต้องหาอาจหลบหนีคดีได้
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในวันเดียวกันนี้ พ.ต.ท.ปราโมทย์ ยังเชิญตัว น.ส.ธิดาวรรณ สมบูรณ์ อายุ 21 ปี น้าสาวของ ด.ช.ระพีภัทร มารับทราบสิทธิในการยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกับนายจิรันตน์ที่ทำให้หลานชายเสียชีวิต พร้อมให้แจ้งให้ทราบว่า ญาติมีสิทธิขอรับเงินเยียวยากรณีเด็กถูกกระทำความรุนแรงจนเสียชีวิตจากกระทรวงยุติธรรม
โดยแนะนำให้นำหลักฐานไปยื่นเรื่องขอรับสิทธิเงินเยียวยามูลค่า 100,000 บาท ได้ที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดในเวลาราชการ
ด้าน น.ส.ธิดาวรรณได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รู้สึกดีใจและหายกังวลใจ หลังตำรวจจับตัวนายจิรันตน์มาดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย เพื่อความเป็นธรรมกับหลานชายที่เสียชีวิต พร้อมฝากถึงครอบครัวที่มีการหย่าร้างและมีลูกอยู่ในความดูแล ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดให้ความรัก อย่ารอให้สายเกินแก้เหมือนบทเรียนของพี่สาวตนเอง
