สระแก้ว - ราษฎรใน ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ยื่นถวายฎีกา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ต่อหัวหน้าชุดล่วงหน้าประจำขบวนเสด็จฯ คัดค้านโครงการขยายการก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำตาลทรายขนาดใหญ่ และโรงไฟฟ้าชีวมวลของกลุ่มทุน หวั่นกระทบอาชีพเลี้ยงโคนม ซึ่งเป็นอาชีพพระราชทานของรัชกาลที่ ๙
วันนี้ (11 พ.ค.) น.ส.กนกกาญจน์ วงษ์ชัยยะ ชาวอำเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว ได้นำสมาชิกเครือข่ายพิทักษ์สิ่งแวดล้อมและสิทธิชุมชน สาขาวังสมบูรณ์ ในนามราษฎรตำบลวังใหม่ อำเภอวังสมบูรณ์ และพื้นที่ใกล้เคียงยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา
ทั้งนี้ เพื่อกราบบังคมทูลทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างเสด็จทรงเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านสารภี ม.3 ต.ทับพริก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กรณีราษฎรชาวตำบลวังใหม่ และพื้นที่ใกล้เคียงคัดค้านโครงการขยายการก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำตาลทราย ขนาด 12,500 ตันอ้อยต่อวัน และโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 60 เมกะวัตต์ ที่ตำบลวังใหม่
ทั้งนี้ เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่ออาชีพเลี้ยงโคนม ซึ่งเป็นอาชีพพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กว่า 2,000 ครัวเรือน และยังจะกระทบต่อผู้ประกอบการมะม่วงส่งออก และผู้ปลูกลำไยนอกฤดู ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของพื้นที่
น.ส.กนกกาญจน์ เผยว่า ที่ผ่านมาสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ได้พิจารณาไม่เห็นชอบในโครงการดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะ (อีไอเอชุมชน) แตกต่างจากการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมฯ ของบริษัทเอกชน ซึ่งมีข้อมูลที่บิดเบือน และขั้นตอนหลายประการที่อาจเข้าข่ายทุจริตฉ้อฉล และดำเนินการก่อนที่จะได้รับใบอนุญาต และปัจจุบันผู้ได้รับผลกระทบยังได้ร้องเรียนไปยังนายกรัฐมนตรี
“กรณีการใช้พื้นที่โครงการฯ ก่อนการพิจารณาอนุญาต โดยพบว่า บริษัทเข้าไปดำเนินการก่อนการพิจารณาเสร็จสิ้น และยังเช่าพื้นที่สหกรณ์โคนมฯ เพื่อดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2559 และยังมีการขออนุญาตใช้น้ำ ถือเป็นดำเนินการก่อนการได้รับอนุญาต และก่อนการพิจารณาของ คชก.อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการวางท่อและส่งน้ำเพื่อใช้ยังพื้นที่โครงการฯ ตามหลักฐานรูปถ่าย และหนังสือขออนุญาตสูบน้ำจากคลองพระสะทึง ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2559 รวมทั้งยังพบข้อมูลการขออนุญาตใช้พื้นที่กับแผนที่ในรายงานอีไอเอไม่ตรงกัน”
การดำเนินการที่ผ่านมาขาดหลักธรรมาภิบาลชัดเจน แต่เมื่อทางเครือข่ายฯ และประชาชนยื่นเรื่องขอดูเอกสารอีไอเอฉบับสมบูรณ์ ขณะที่ผู้ที่จะได้รับผลกระทบก็ไม่มีส่วนในกระบวนการรับรู้ข่าวสารใดๆ ของโครงการจึงถือว่าไม่โปร่งใส
น.ส.กนกกาญจน์ ยังเผยอีกว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบจึงจำเป็นต้องกราบบังคมทูลถวายฎีกา เพื่อทรงพระกรุณาตรวจสอบความไม่โปร่งใสของหน่วยงาน ข้าราชการ และองค์กรที่เกี่ยวข้อง อันเป็นสิทธิของประชาชน และหน่วยงานราชการพึงปฏิบัติโดยชอบเพื่อให้เกิดความชัดเจน และโปร่งใส
ทั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวไม่มีความเหมาะสมต่อการก่อสร้างโรงงานขนาดใหญ่ และโรงไฟฟ้าชีวมวล เพราะสร้างติดกับสถานที่ผลิตนมโรงเรียน และสหกรณ์โคนมฯ ที่ส่งผลกระทบชัดเจนต่อความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ และอาชีพเลี้ยงโคนม ซึ่งเป็นอาชีพพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และยังเสี่ยงต่อการล่มสลายชัดเจน โดยมีประชาชนในพื้นที่ร่วมลงชื่อถวายฎีกา จำนวน 166 คน ซึ่งไม่รวมรายชื่อคัดค้านอีกกว่า 1,000 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้าที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จถึงโรงเรียน ตชด. หัวหน้าชุดล่วงหน้าประจำขบวนเสด็จฯ ได้เข้ารับฎีกาจาก น.ส.กนกกาญจน์ วงษ์ชัยยะ และราษฎรตำบลวังใหม่ เพื่อเตรียมส่งให้ราชเลขาฯ นำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป