ศูนย์ข่าวขอนแก่น - นักธุรกิจหนุ่มชาวขอนแก่นร้องสื่อขอความเป็นธรรมกรณีถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายร่างกายในสถานบันเทิง ก่อนจะกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระเครื่องชื่อดัง “พระปิดตาหลวงปู่ไข่” วัดบางเลน ทั้งคู่กรณีนัดไปเคลียร์ ที่ฟิตเนสแห่งหนึ่ง กลับถูกรุมทำร้ายและนำภาพบางส่วนโพสต์ในเฟซบุ๊กหาว่าตนทำร้าย จนถูกด่าจมเสียชื่อเสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (10 พ.ค.) ที่ร้านกาแฟคอฟฟี่ เด้อ หล่า ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น นายผดุงเกียรติ สกุลหิรัญวาณิช อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 175 ม.1 บ.สำโรง ต.สำโรง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น นักธุรกิจจังหวัดขอนแก่น นัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีปัญหาถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่าจากกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่น
นายผดุงเกียรติเล่าว่า เมื่อคืนวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมาตนได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครขอนแก่น และได้มีเรื่องชกต่อยกับวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง โดยระหว่างชกต่อยกันชุลมุนนั้นกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีได้กระชากสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท พร้อมพระปิดตาหลวงปู่ไข่ วัดบางเลน มูลค่าหลักล้านบาทเอาไปด้วย
หลังเกิดเหตุ ในวันที่ 7 พ.ค. 2560 เวลากลางคืน ได้มีการนัดไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี ชื่อเล่นว่า “แชมป์” โดยให้ไปพบกันสองต่อสอง โดยใช้ฟิตเนสแห่งหนึ่งบนถนนหน้าเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เป็นสถานที่นัดเจอกัน โดยตนได้เดินทางไปคนเดียวตามข้อตกลง แต่กลับพบว่าคู่กรณีได้พากลุ่มชายฉกรรจ์พร้อมพกพาอาวุธปืนมาด้วย
ในระหว่างเจรจาพูดคุยกันอยู่นั้น ทางคู่กรณีได้ชกเข้าที่บริเวณใบหน้าของตน จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ได้ชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่ ทำให้ตนต้องวิ่งออกจากร้านไปที่รถยนต์ส่วนตัวที่จอดอยู่ จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์วิ่งตามมาได้ยิงปืนใส่ 1 นัดแต่พลาด
ตนจึงคว้าเอามีดที่อยู่ในรถแทงกลุ่มชายฉกรรจ์เพื่อป้องกันตัว จนทำให้มีผู้ได้รับเจ็บ 2 ราย ซึ่งต่อมาได้เข้าทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลขอนแก่น
จากนั้นตนรีบขับรถออกมาจากฟิตเนส และไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่นเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และไปตรวจร่างกายบริเวณที่ถูกทำร้ายที่โรงพยาบาลขอนแก่นเช่นกัน เพื่อขอใบรับรองแพทย์ไว้เป็นหลักฐานยืนยันว่าตนเองได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้าย
ทั้งนี้ ในระหว่างการแถลงข่าว นายผดุงเกียรติได้เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านฟิตเนสให้สื่อมวลชนได้ดู โดยภาพวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์กลุ่มชายฉกรรจ์กำลังมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันภายในร้าน ก่อนที่จะมีการชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่ ก่อนที่กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดจะวิ่งออกไปทำร้ายกันต่อหน้าร้าน หลังเหตุการณ์ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย โดยทั้งคู่ถูกอาวุธมีดแทงเข้าลำตัว ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา
“หลังเกิดเหตุคนที่ได้รับบาดเจ็บจากคมมีดได้นำภาพบางส่วนไปโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่าฝ่ายตนเองเป็นผู้ถูกกระทำ ทำให้กระแสสังคมโซเชียลแสดงความเห็นโจมตีผมด้วยถ้อยคำรุนแรงว่ากระทำเกินกว่าเหตุ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงผมต่างหากที่เป็นผู้ที่ถูกรุมทำร้ายจนใบหน้าฟกช้ำไปหมด” นายผดุงเกียรติกล่าว และบอกว่า
เหตุผลที่ตนต้องออกมาแถลงข่าวกับสื่อมวลชนครั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้สังคมได้รับทราบข้อมูลเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดทั้งสองฝ่าย และขอความเห็นใจจากสังคมว่าตนเป็นผู้ถูกกระทำ ไม่ได้เป็นคนร้ายเหมือนที่สังคมในโลกโซเชียลเข้าใจผิดและกล่าวโจมตีต่างๆ นานาก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม ในส่วนคดีความขอให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป และสำคัญที่สุดตอนนี้คือตนต้องการของกลางที่เป็นพระเลี่ยมทอง และสร้อยคอทองคำคืน