ศูนย์ข่าวศรีราชา - โครงการพัฒนาระเบียบเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี ส่งผลดี นักลงทุนทั้งส่วนกลาง และท้องถิ่นต่างมองเห็นโอกาส แห่กว้านซื้อที่ดินใกล้สนามบินอู่ตะเภา หวังสร้างเมืองใหม่รับความเจริญ เผยปัจจุบันราคาที่ดินแถบวัดญาญฯ พุ่งสูงไร่ละ 7-8 ล้านบาท
นางโสภิญ เทพจักร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดอาน่า กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ในเครือไดอาน่า เปิดเผยว่า การเกิดขึ้นของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ที่รัฐบาลมีเป้าหมายให้เป็นเขตเศรษฐกิจชั้นนำของอาเซียน ด้วยการส่งเสริม 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคตว่า มีผลทำให้ราคาที่ดินทั้งในเขตเมืองพัทยา และอำเภอสัตหีบ เริ่ม ขยับตัว
จากการกว้านซื้อของทั้งนักลงทุนท้องถิ่น และส่วนกลาง เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ และคอนโดมิเนียม รองรับการเข้ามาของกลุ่มคนทำงาน และนักท่องเที่ยว
ขณะนี้ราคาที่ดินในเขตตำบลบ้านอำเภอ อยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านบาทต่อไร่ ส่วนราคาที่ดินย่านวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ราคาซื้อขายอยู่ที่ 7-8 ล้านบาทต่อไร่ ซึ่งมีปัจจัยสำคัญมาจาการอยู่ใกล้สนามบินอู่ตะเภา และในอนาคตยังจะมีสถานีรถไฟความเร็วสูงที่สวนนงนุช จึงจะทำให้ราคาที่ดินบริเวณดังกล่าวขยับขึ้นอีกมาก
“ช่วงนี้ธุรกิจที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ และคอนโดมิเนียมเริ่มขยับรับอีอีซี เช่นเดียวกับคอนโดฯ ของเราก็รอโอนอยู่หลายห้อง ทั้งนี้ เพราะนักลงทุนมองว่าการเกิดขึ้นของโครงการอีอีซี จะทำให้เกิดการลงทุนมากมาย ทั้งในแง่ของการก่อสร้าง และการลงทุนด้านที่อยู่อาศัย ซึ่งภาคเอกชนก็มองเห็นว่า อีอีซี เป็นโครงการที่ดี และเป็นความฝันว่าในปลายปีนี้หลายๆ อย่างน่าจะเป็นรูปธรรม
โดยขณะนี้ราคาที่ดินในเมืองพัทยาคล้ายฟองสบู่คือ มีการกำหนดราคาซื้อขายที่สูงจนแตะต้องไม่ได้ ทำให้นักลงทุนต้องมองหาพื้นที่ใหม่ๆ ในเขต ต.ห้วยใหญ่ หรือแม้แต่บ้านอำเภอ เพื่อเตรียมขยายการลงทุนรับการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาสู่การสนามบินนานาชาติ”
นางโสภิญ ยังเผยอีกว่า การเกิดขึ้นของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก จะทำให้เมืองสัตหีบ กลายเป็นเมืองใหม่ที่มีความน่าสนใจด้านการลงทุนเพื่อที่อยู่อาศัย รองรับการเข้ามาของนักท่องเที่ยวที่จะไหลออกจากเมืองพัทยา เพราะในอนาคตพื้นที่โดยรอบเมืองสัตหีบ จะมีทั้งโรงแรมที่เป็นบูทีคโฮเทล สนามกลอฟ สวนน้ำ ที่เกิดจากนักลงทุนต่างถิ่นที่มีการวางแผนตลาดไว้ล่วงหน้า จากการพัฒนาไร่องุ่น สู่การพัฒนาสนามกลอฟ และอื่นๆ อีกมากมาย
“สัตหีบ กำลังจะกลายเป็นเมืองใหม่ที่มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ซึ่งจะทำให้ภาคการลงทุน และการท่องเที่ยวไหลออกจากเมืองพัทยา ที่ในอนาคตจะมีนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามาจำนวนมาก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีนักท่องเที่ยวจีนจาก 34 มณฑล เข้ามาท่องเที่ยวในเมืองพัทยา ซึ่งถือเป็นมิติหมายที่ดี ในขณะเดียวกัน นักลงทุนในเมืองพัทยา ก็เร่งสร้างโรงแรมขึ้นอีกมากเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้” นางโสภิญ กล่าว