ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ชาวเมืองปายรุมค้านหัวชนฝา ไม่เอาโครงการเมืองสปาฯ หวั่นนายทุนฮุบ-แย่งชิงทรัพยากรที่อยู่กันมาตั้งแต่คนรุ่นปู่ย่าตาทวด หลังนักธุรกิจโผล่แจมเวทีชี้แจงตั้งแต่ไก่โห่ ขณะที่อุทยานฯ ประสานนายอำเภอนัดเปิดเวทีประชาพิจารณ์อีกรอบ
นายธนกฤต ฉันทะจำรัสศิลป์ นายอำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ทางอำเภอฯ รับรู้เรื่องราวกรณีชาวบ้านและผู้นำชุมชน ต.แม่ฮี้ คัดค้านโครงการเมืองสปาและหมู่บ้านน้ำพุร้อนเพื่อการท่องเที่ยว และได้รับการประสานงานจากอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง เพื่อจัดให้มีเวทีชี้แจงและทำความเข้าใจกับชาวบ้านพร้อมทำประชาคม เพื่อความชัดเจน โปร่งใส ตรวจสอบได้ และพร้อมรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านเจ้าของสถานที่ว่ามีความต้องการหรือไม่ อย่างเต็มที่
“เมื่อได้รับฟังข้อชี้แจงถึงเหตุผลต่างๆ แล้ว ก็ต้องแล้วแต่ว่าทางชุมชนหรือชาวบ้านมีความคิดเห็นประการใด ซึ่งต้องให้เกียรติเจ้าของสถานที่ด้วย”
ส่วนเวทีชี้แจง รับฟังความคิดเห็น และประชาคมจะมีขึ้นเมื่อไหร่นั้นจะแจ้งให้ทราบในเร็ววันนี้ ช่วงนี้อยู่ระหว่างประสานงานกับทางผู้นำชุมชน และอุทยานฯ ถึงความพร้อมของฝ่ายต่างๆ ทางอำเภอยินดีที่จะเป็นตัวกลางประสานให้เพื่อความสามัคคีและเข้าใจกันของทุกภาคส่วนในอำเภอปาย
ด้านแหล่งข่าวกรมอุทยานฯ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทีมทำงานเมืองสปาและหมู่บ้านน้ำพุร้อนเพื่อการท่องเที่ยวได้เดินทางมาพบกับชาวบ้านชุมชนโป่งร้อน และท่าปายแล้วรอบหนึ่ง เพื่อแจ้งให้ทราบว่ามีโครงการนี้เกิดขึ้น ได้มีการประสานงานเชิญผู้นำชุมชน และชาวบ้านเข้าร่วมรับฟังถึงรายละเอียดของโครงการในทุกๆ ด้าน
แต่ด้วยเวลาที่จำกัดอาจทำความเข้าใจกับชาวบ้านได้ไม่เพียงพอ และขาดความต่อเนื่องในการทำประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจด้วย
โดยในที่ประชุมทางชาวบ้านได้แสดงความเป็นห่วงในเรื่องของการแย่งชิงทรัพยากรน้ำร้อน ซึ่งได้แจ้งไปแล้วว่าในส่วนของโครงการจะใช้น้ำจากบ่อล่างที่อยู่ก่อนถึงด่านเก็บเงินเข้าอุทยานฯ ซึ่งจะไม่รบกวน ไม่ดึงน้ำจากบ่อเดิมที่ชาวบ้านใช้กันอยู่เลย
แต่การชี้แจงครั้งนั้นอาจยังไม่ชัดเจนมากนักจึงทำให้เกิดการคัดค้านขึ้นมา ทางอุทยานฯ จึงได้มีการประสานไปยังอำเภอปายเพื่อทำเวทีชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้นำชุมชนและชาวบ้านเพื่อความเข้าใจอันดีต่อกัน ก่อนที่ชาวบ้านจะคัดค้านต่อไป ทางทีมทำงานก็อยากจะขอขี้แจงข้อเท็จจริงก่อน
“อยากให้ทุกอย่างตรงไปตรงมา โปร่งใส ตรวจสอบได้ ซึ่งทางอำเภอจะได้จัดให้มีเวทีชี้แจงและรับฟังเสียงจากประชาชนในเร็ววันนี้”
ขณะที่ชาวบ้านจากชุมชนโป่งร้อน และท่าปาย เจ้าของพื้นที่โครงการเมืองสปาและหมู่บ้านน้ำพุร้อนเพื่อการท่องเที่ยว ได้แสดงความเห็นต่อผู้สื่อข่าวว่า ก่อนกลางเดือนกุมภาพันธ์มีเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ เชิญเข้ารับฟังการแจ้งข่าวเรื่องของโครงการนี้จริงๆ แต่ก็ยังไม่ได้ชัดเจนอะไรมากนัก
เพราะไม่ได้มีเอกสารอะไรมาชี้แจงอย่างเป็นทางการเลย เป็นเพียงการพูดคุยกันเท่านั้น และไม่มีชาวบ้านคนใดยกมือเห็นด้วยกับโครงการเลย ต่างตั้งข้อสงสัยทั้งในเรื่องของการแย่งชิงทรัพยากรคือ น้ำร้อน ซึ่งปกติก็ไม่ค่อยพอใช้กันอยู่แล้ว
และที่น่าเคลือบแคลงคือ ในการมาแจ้งชาวบ้านคราวนั้นบอกว่าเป็นงานของราชการโดยกรมอุทยานฯ แต่ปรากฏว่ามีนักธุรกิจเข้ามามีส่วนร่วมชี้แจง-พูดคุยกับชาวบ้านด้วย อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ เกรงจะนำไปสู่การแสวงหาผลประโยชน์ในพื้นที่ของอุทยานฯ โดยเอกชน ซึ่งชาวบ้านเจ้าของพื้นที่ไม่ได้มีความยินดีด้วยเลย
ซึ่งจนถึงขณะนี้ชาวบ้านส่วนหนึ่งยังยืนยันด้วยว่า ถึงแม้จะอ้างว่าโครงการดีอย่างไร เราก็ไม่ได้ต้องการ ทุกวันนี้ที่เป็นอยู่ก็ดีอยู่แล้ว ไม่ได้ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรในพื้นที่อีก ส่วนที่ทางอุทยานฯ ต้องการจะชี้แจงนั้น ชาวบ้านก็พร้อมที่จะไปรับฟัง และขอแสดงความคิดเห็น ในฐานะเจ้าของพื้นที่ที่อยู่ตรงนี้กันมาตั้งแต่ครั้งปู่ย่าตาทวด ซึ่งรักและหวงแหนทรัพยากรตรงนี้ ไม่ต้องการให้ผู้ใดมาฉกฉวยเอาผลประโยชน์ กันไปตามสบายโดยมองข้ามชาวบ้านที่อยู่กันมานานไป
ทั้งนี้ ในการจัดตั้งเวทีชี้แจงจากอุทยานฯ และรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้าน พร้อมทั้งทำประชาพิจารณ์โครงการดังกล่าวนั้น กำหนดวันยังคงอยู่ในระหว่างการประสานงาน ซึ่งทางอำเภอปายจะแจ้งให้ทราบต่อไป แต่คาดว่าไม่น่าจะเกินสัปดาห์หน้า
อนึ่ง โครงการเมืองสปาและหมู่บ้านน้ำพุร้อนเพื่อการท่องเที่ยวเป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากหน่วยงานกลุ่มยุทธศาสตร์สี่จังหวัดภาคเหนือ (เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน) สำนักบริหารที่ 16 เชียงใหม่ กรมอุทยานแห่งชาติฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เขียนโครงการวางแผนไว้ตั้งแต่เมื่อสองปีที่แล้ว และผ่านงบประมาณปี 2560
ซึ่งนอกจากโครงการที่ อ.ปายแล้ว ยังมีโครงการแบบเดียวกันนี้ที่ ออบหลวง จ.เชียงใหม่, ดอยผ้าห่มปก (เขต อ.ฝาง จ.เชียงใหม่), ผาแดง (เชียงดาว จ.เชียงใหม่), แจ้ซ้อน จ.ลำปาง และที่โป่งสามัคคี อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่