อุบลราชธานี - ญาติเด็กชาย 2 ขวบ ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายจนเสียชีวิตผวา! กลุ่มชายวัยรุ่นขับขี่รถ จยย.ซ้อนท้ายมาป้วนเปี้ยนแถวบ้าน เกรงเป็นพวกปล่อยเงินกู้พวกเดียวกับพ่อเลี้ยง ขณะพนักงานสอบสวนนำตัวเพื่อนในกลุ่มพ่อเลี้ยงมาสอบหาเบาะแสแหล่งหลบซ่อน เพื่อจับตัวมาดำเนินคดีแล้ว
จากกรณี ด.ช.ระพีภัทร สาแล๊ะ อายุ 2 ขวบเศษ ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายจนตับแตก มีเลือดคั่งในสมอง ส่วน นายจิรันตน์ หรือเหน่ง ปันสวน พ่อเลี้ยงยังคงหลบหนี โดยล่าสุดตำรวจออกหมายจับตัวข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตร่วมกับเพื่อนที่พักอยู่ในหอพักเดียวกัน ตามเสนอข่าวแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (8 พ.ค.) ที่วัดธรรมนิมิตร บ้านเพี้ยเพ้า ต.คำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ญาติ ด.ช.ระพีภัทร สาแล๊ะ อายุ 2 ขวบเศษ ได้ทำพิธีทางศาสนาฌาปนกิจศพ โดยมี นายฮัมดัน สาแล๊ะ บิดาแท้ๆ และเพื่อนบ้าน ด.ช.ระพีภัทร เข้าร่วมประมาณ 100 คน ท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติพี่น้องที่เลี้ยงดู ด.ช.ระพีภัทร มาตลอด
น.ส.ธิดาวรรณ สมบูรณ์ อายุ 21 ปี น้าสาวกล่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อหลาน แม้ไม่ได้อยู่ด้วยเหมือนญาติคนอื่น เพราะออกไปอยู่กับครอบครัว แต่ก็แวะมาดูแลหลานเป็นครั้งคราว ทำให้ก็รู้สึกเสียใจที่หลานต้องมาเสียชีวิตเพราะถูกทำร้าย
และต้องการให้พี่สาวออกมาพบเจ้าหน้าที่เพื่อนำไปสู่การจับกุม นายจิรันตน์ หรือเหน่ง ปันสวน อายุ 24 ปี พ่อเลี้ยงมารับโทษที่ทำขึ้น เพราะแม้ ด.ช.ระพีภัทร ไม่ได้อยู่ด้วยแล้ว แต่ก็มีญาติพี่น้องที่พร้อมให้การช่วยเหลือ นางธิดารัตน์ พร้อมเกรงว่า นางธิดารัตน์ จะได้รับอันตรายในช่วงนี้ด้วย
ขณะที่ญาติอีกคนกล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงสวัสดิภาพของญาติพี่น้อง เพราะสังเกตตั้งแต่เกิดเรื่องช่วง 1-2 วัน มีกลุ่มผู้ชายขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันเหมือนพวกเก็บเงินกู้รายวันเหมือนกับนายจิรันตน์ พ่อเลี้ยง มาซุ่มดูความเคลื่อนไหวบริเวณบ้านพัก ทำให้เกิดความกลัว
ด้านการติดตามจับกุม นายจิรันตน์ หรือเหน่ง ปันสวน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้หาเบาะแสจากกลุ่มเพื่อนนายจิรันตน์ ที่มีอาชีพปล่อยเงินกู้ ซึ่งได้ข้อมูลไม่มากนัก และคาดว่าจุดที่ นายจิรันตน์ และนางธิดารัตน์ มารดาของเด็กหลบหนีไปอาจอยู่แถวภาคตะวันออกที่เป็นบ้านเกิดของผู้ต้องหา
และจากการสอบญาติฝั่ง นางธิดารัตน์ สมบูรณ์ ผู้เป็นมารดาให้ข้อมูลความเกี่ยวพันระหว่างนายจิรันตน์ กับด.ช.ระพีภัทร โดยนายจิรันตน์ พ่อเลี้ยงเคยมารับตัว ด.ช.ระพีภัทร ไปนอนที่หอพักด้วยประมาณ 3-4 ครั้ง แต่ละครั้งจะไปอยู่ด้วยนาน 3-4 วัน นางธิดารัตน์ ก็จะรับตัวเด็กกลับมา
และสังเกตว่าทุกครั้งที่ นายจิรันตน์ มารับตัวเด็กที่บ้านในอำเภอวารินชำราบ เด็กจะมีอาการหวาดกลัวไม่อยากไปด้วย และบางครั้งเมื่อหลานกลับมาที่บ้านจะพบเห็นบาดแผลคล้ายถูกหยิกบริเวณต้นคอ หรือขาด้วย ซึ่งเด็กบอกว่าถูกนายจิรันตน์ กับแม่ตี แต่ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะหลานอาจถูกทำโทษ เพราะซุกซนตามประสาเด็ก
และครั้งสุดท้ายที่ นายจิรันตน์ มารับเด็กไปจากบ้านเมื่อค่ำวันที่ 5 พ.ค. ยืนยันว่า ก่อนออกจากบ้านร่างกาย ด.ช.ระพีภัทร ไม่มีรอยเขียวช้ำเหมือนวันที่พบเด็กเสียชีวิตไปแล้ว