กาฬสินธุ์ - เริ่มแล้ว งานแสดงแสง สี เสียง เดอะมิวสิคัล ฟ้าแดดสงยาง ประจำปี 2560 ถวายเป็นพุทธบูชาและสรงน้ำพระธาตุยาคู เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา ที่โบราณสถานพระธาตุยาคูเมืองฟ้าแดดสงยาง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เผยนางรำกว่า 500 ชีวิตร่วมรำบวงสรวง
วันนี้ (8 พ.ค. 60) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่บริเวณโบราณสถานพระธาตุยาคูเมืองฟ้าแดดสงยาง บ้านเสมา ตำบลหนองแปน อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นำข้าราชการ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ่อค้า ประชาชนกว่า 1,000 คน ร่วมรำเครื่องบวงสรวงและประกอบพิธีบวงสรวงพระธาตุยาคู โบราณสถานในยุคทวารวดี อายุกว่า 1,000 ปี
ทั้งนี้ การบวงสรวงเริ่มต้นขึ้นด้วยขบวนแห่ฟ้อนรำภายในโบราณสถาน โดยใช้นางรำในพื้นที่ตำบลหนองแปนกว่า 500 ชีวิต ต่างแต่งกายสวยงามในชุดผ้าไทยสีขาว จากนั้นได้ร่วมกันรำบวงสรงต่อหน้าพระธาตุยาคู สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวกาฬสินธุ์ยึดถือ เพื่อส่งสัญญาณการเฉลิมฉลองตามประเพณีก่อนก้าวเข้าสู่เทศกาลวันวิสาขบูชา
โดยปีนี้อำเภอกมลาไสยร่วมกับการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาฬสินธุ์, วัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์, วิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์, สำนักงานเทศมนตรีตำบลหนองแปน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดให้มีการแสดงแสง สี เสียง เดอะมิสิคัล ฟ้าแดดสงยาง เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา จัดเป็นปีที่ 3 ในรูปแบบละครเพลง โดยมี น.ส.สุภาพร คำยุธา นักวิชาการอิสระ เป็นผู้กำกับการแสดง และนายณพล ผาธรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงดนตรี เป็นผู้กำกับด้านเสียง และยังมีนักวิชาการด้านต่างๆ ล้วนเป็นคนกาฬสินธุ์ เข้าร่วมแสดงและออกแบบงานละคร
การแสดงละครเพลงแบ่งออกเป็น 6 องก์ นำเสนอเรื่องของพระธาตุยาคูที่เล่าขานถึงความรักระหว่างท้าวเชียงโสมกับนางฟ้าหยาด ซึ่งเป็นโศกนาฏกรรมแห่งความรัก กำหนดการแสดงระหว่างวันที่ 8-9 พฤษภาคมนี้ เริ่มต้นในเวลา 18.00 น. ส่วนวันที่ 10 พฤษภาคม จะเป็นการสรงน้ำพระธาตุยาคู เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชาประจำปี 2560
นอกจากนี้ ภายในงานยังจำหน่ายพืชผลการเกษตรจากกลุ่มเกษตรกรที่อยู่ในโครงการพัฒนาแก้มลิงหนองเลิงเปือย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และกลุ่มอาชีพในพื้นที่ การออกร้านจำหน่ายสินค้าโอทอป ซึ่งนอกจากจะส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้วยังเป็นการขยายตลาดสินค้าสร้างรายได้ให้กลุ่มอาชีพต่างๆ ในพื้นที่อีกด้วย
สำหรับพระธาตุยาคูเป็นหนึ่งโบราณสถาน อายุราวพุทธศตวรรษที่ 12-14 ชั้นฐานราก อยู่ในสมัยทวารวดี ส่วนชั้นถัดมาเป็นการก่อสร้างเพื่อทับในสมัยอยุธยา และชั้นบนสุดเป็นรูปแบบการก่อสร้างในช่วงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งปัจจุบันสำนักงานเทศบาลตำบลหนองแปนดูแลอยู่
