xs
xsm
sm
md
lg

ชวนขนลุก! พิสูจน์แหล่งท่องเที่ยวอาถรรพ์เมืองแปดริ้ว กับหุ่นฝังวิญญาณในสำนักสงฆ์ร้างอาจารย์ซ่วน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - บุกพิสูจน์แหล่งท่องเที่ยวอาถรรพ์ชวนขนหัวลุก กับอุทยานกลางแจ้งหุ่นฝังวิญญาณ ในสำนักสงฆ์ร้างอาจารย์ซ่วน เกจิชื่อดังในตำนานเมื่อกว่า 30 ปีก่อนของเมืองแปดริ้ว ที่ถูกปล่อยทิ้งรกร้างมานานถึง 24 ปีเต็ม จนกลายเป็นผืนป่าอึมครึมอันน่าสะพรึงกลัว ขณะชาวบ้าน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่แห่เข้ามาขอโชคลาภ และค้นหาเลขเด็ดกันอย่างเนืองแน่นในวันก่อนหวยออก

วันนี้ (7 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าไปพิสูจน์ยังสถานที่อาถรรพ์ตามคำร่ำลือของชาวบ้านถึงความน่าสะพรึงกลัวของสถานที่แห่งหนึ่ง ภายในบริเวณสำนักสงฆ์ร้างอาจารย์ซ่วน เกจิชื่อดังในตำนานของเมืองแปดริ้ว ซึ่งเป็นอุทยานกลางแจ้ง หรือศูนย์รวมของหุ่นปั้นฝังวิญญาณ ที่ถูกปล่อยทิ้งร้าง และตั้งวางให้ยืนตระหง่านเรียงรายกันอยู่เต็มแน่นพื้นที่ ภายในบริเวณผืนป่าริมคลองท่าลาด พื้นที่รอยต่อระหว่าง ม.5 และ ม.6 ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา

สอบถาม นางสายพิน เจนภูมิเดช อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1014 ม.1 ต.พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา หนึ่งในเด็กสาวที่ถูกนำมาฝึกหัดให้เป็นผู้ช่วยช่างปั้นหุ่นปูนปั้นทั้งหลายเหล่านี้ ตั้งแต่เมื่อครั้งเธอยังอยู่ในวัย 18-19 ปี กล่าวว่า พระอาจารซ่วน ปัญญาธโร เจ้าของสำนักสงฆ์แห่งนี้ ท่านได้มรณภาพไปนานแล้ว ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ.2536 ด้วยวัย 63 ปี สำนักสงฆ์แห่งนี้ซึ่งปลูกสร้างอยู่บนพื้นที่ดินส่วนตัว ซึ่งเป็นสมบัติของ นายวัน ผู้เป็นบิดาของพระอาจารย์ เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ จึงถูกปล่อยทิ้งร้างมาเป็นเวลานานถึง 24 ปีเต็มแล้ว สภาพพื้นที่จึงดูรกร้าง และหุ่นปั้นตามจินตนาการ และวรรณคดีต่างๆ จำนวน 242 ตัว จึงได้ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้จนมีต้นไม้ และเถาวัลย์น้อยใหญ่ขึ้นรกปกคลุม จนดูน่าสะพรึงกลัวสำหรับผู้คนที่ได้เข้ามาพบเห็น

โดยหุ่นปั้นในสำนักสงฆ์ร้างของพระอาจารย์ซ่วนแห่งนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นหุ่นปั้นตามวรรณคดีไทย และหุ่นปั้นทางศาสนาต่างๆ ทั้งไทย จีน อินเดีย เช่น หุ่นปั้นในพุทธประวัติ หุ่นปั้นเจ้าแม่กาลี ในศาสนาพราหมณ์ของอินเดีย หุ่นปั้น 8 เซียนของจีน และเจ้าแม่กวนอิม ตลอดจนรูปปั้นยักษ์จากวรรณกรรมต่างๆ เปรต อสุรกาย ตัวละครจากเรื่องพระอภัยมณี นางสิบสอง และขุนโจรที่มีชื่อเสียงในอดีตอย่างมากมายหลายร้อยชนิด

เนื่องจากท่านเป็นคนชอบสร้างหุ่นช่วยเหลือคนเพื่อสะเดาะเคราะห์ให้แก่ผู้คนที่เข้ามาขอความช่วยเหลือ และหุ่นทุกตัวที่สร้างขึ้นจะมีส่วนผสมของกระดูกผีตายโหงตามวิชาอาคมที่ท่านได้เรียนมา และมีการตั้งโต๊ะทำพิธีเซ่นไหว้ในทุกๆ ตัวที่สร้างขึ้น จึงยิ่งทำให้ป่าหุ่นปูนปั้นแห่งนี้ยิ่งดูขขลึมขลังวังเวง จนน่าสะพรึงกลัว และไม่มีใครกล้าย่างกราย หรือเดินผ่านเข้ามาใกล้

โดยเดิมทีนั้น พระอาจารย์ซ่วน ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดท่าลาดใต้ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องกันริมคลองท่าลาดใต้สายนี้ แต่หลังจากที่มีผู้คนทั้งใน และนอกพื้นที่ต่างพากันเดินทางเข้ามาขอให้ท่านช่วยเหลือ และเข้ามาขอเครื่องรางของขลัง โดยเฉพาะปลัดขิกเรียกทรัพย์จากท่านเป็นจำนวนมากอย่างเนืองแน่นตลอดทุกวัน

จนทำให้ท่านไม่ได้พักผ่อน เพราะนอกจากจะรับแขกเหรื่อญาติโยมที่เดินทางเข้ามาขึ้นหาแล้ว ท่านยังต้องทำงานภายในวัดอื่นๆ ด้วย พระอาจารย์จึงได้ข้ามมาก่อตั้งสำนักสงฆ์แห่งนี้ขึ้นมาเพื่อไว้ใช้เป็นสถานที่พักผ่อน หลบหลีกจากการถูกรบกวนจากผู้คน ด้วยการพายเรือข้ามฝั่งมาพักผ่อนภายในสำนักสงฆ์แห่งนี้เมื่อต้องการพักผ่อนอย่างเต็มที่บ้าง

โดยที่ในวัดท่าลาดใต้เองนั้น ปัจจุบันก็มีหุ่นปูนปั้นรูปร่างต่างๆ เหล่านี้อยู่มากมายเช่นเดียวกัน และยังมีอายุเก่าแก่มากกว่าหุ่นปั้นในป่าสำนักสงฆ์ร้างแห่งนี้อีกด้วย แม้จะถูกพระสงฆ์ที่เข้ามาอยู่ภายในวัดท่าลาดใต้ในยุคหลังไถทิ้งไปบ้างแล้วก็ตาม โดยหุ่นปูนปั้นที่วัดท่าลาดใต้นั้น มีอายุราว 50 ปี ส่วนหุ่นปั้นในสำนักสงฆ์ร้างแห่งนี้ส่วนใหญ่มีอายุประมาณ 40 ปีเศษเท่านั้น นางสายพิน กล่าว

ขณะที่ นายรณชัย ลี่เส็ง อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/9 ม.3 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา อดีตเด็กวัดพงษาราม ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากสำนักสงฆ์แห่งนี้มากนัก กล่าวว่า เมื่อครั้งตนเองยังอยู่ในวัย 12 ขวบ เมื่อครั้งที่พระอาจารย์ซ่วน ยังมีชีวิตอยู่ ได้เข้ามาวิ่งเล่นที่สำนักสงฆ์แห่งนี้อยู่เป็นประจำ เพราะมีของกินมากเนื่องจากมีผู้คนเข้ามาขึ้นหาอาจารย์มาก และยังมีรายได้จากผู้คนที่ได้ใช้ไหว้วานให้ไปช่วยวิ่งหาซื้อของให้ เนื่องจากเส้นทางการสัญจรในสมัยนั้นไม่ค่อยสะดวก จึงรู้จักคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างดี

โดยหุ่นปั้นต่างๆ เหล่านี้ล้วนมีวิญญาณจากกระดูกผีที่นำมาใช้เป็นส่วนผสมอยู่ในร่างของหุ่นทั้งนั้น โดยหลายตัวล้วนมีประวัติ ที่มีผู้คนได้มาพบเห็นถึงความแปลกประหลาด หรือเคยเกิดเหตุการณ์แปลกๆ ให้เห็นมาแล้วหลายครั้ง จึงทำให้ผู้คนไม่กล้าเข้ามาใกล้ยังสถานที่แห่งนี้ แต่หลังจากที่ได้มีรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งได้เข้ามาถ่ายทำรายการในสถานที่แห่งนี้เมื่อกว่า 4 เดือนก่อน และนำออกเผยแพร่ไป จึงทำให้เริ่มมีผู้คนรู้จักสถานที่แห่งนี้ และเริ่มมีคนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว หรือต้องการเข้ามาพิสูจน์ถึงความลี้ลับยังสถานที่แห่งนี้มากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเวลากลางวัน

ส่วนในช่วงเวลากลางคืนช่วงใกล้วันหวยออกจึงจะมีคนเข้ามาค้นหาเลขเด็ดกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากที่ผ่านมานั้นมีผู้คนได้รับโชคลาภจากหุ่นปูนปั้นต่างๆ จากในสถานที่แห่งนี้กันอย่างมากมาย จนเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดัง จึงทำให้ผู้คนต่างพากันเดินทางเข้ามา โดยเฉพาะในวันก่อนวันออกเลขสลากกินแบ่งรัฐบาล

ด้าน นางจิตรตรา พันธนา อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 ม.2 ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ที่ได้รับโชคลาภจากการค้นหาเลขเด็ดจากหุ่นปูนปั้นเหล่านี้ ซึ่งได้เดินทางเข้ามาแก้บนกับหุ่นรูปกุมารกลางป่า กล่าวว่า แม้ตนเองจะเป็นคนในพื้นที่ แต่ก็ยังไม่เคยเข้ามาขออะไรยังสถานที่แห่งนี้มาก่อน จนเมื่อวันก่อนการออกสลากกินแบ่งของรัฐบาลในงวดที่ผ่านมาจึงได้เข้ามาลองขอดู ปรากฏว่า ได้รับเลขโชคลาภจริงๆ แม้จะเป็นเพียงโชคลาภเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม ในวันนี้จึงได้ไปซื้อของเล่นมาแก้บนตามที่ได้เคยเอ่ยปากให้ไว้แก่หุ่นกุมารเพื่อรักษาสัญญา

ส่วนเรื่องประหลาด หรือปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติในสถานที่แห่งนี้นั้น ตนยังไม่เคยประสบเหตุการณ์ทำนองนั้นมาก่อน แต่มีเพียงอาการขนลุกซู่ตั้งชันทั้งตัวอยู่บ่อยครั้ง เมื่อเดินผ่านตามจุดต่างๆ ในสถานที่แห่งนี้ หากจุดไหนเราสามารถสัมผัสกับอะไรบางอย่างได้ โดยที่ไม่เคยพบเห็นเป็นตัวเป็นตน หรือมีสิ่งเคลื่อนไหวอย่างแปลกประหลาดผ่านหน้าตามคำร่ำลือมาก่อน นางจิตรตรา กล่าว





กำลังโหลดความคิดเห็น