ศรีสะเกษ - “พอ.อ.อ.ประจิน” ลงพื้นที่ศรีสะเกษ ประกาศแก้ปัญหาเขื่อนราศีไศล และเขื่อนหัวนาภายใน 6 เดือน หลังปัญหายืดเยื้อมานานกว่า 20 ปี พร้อมสั่งการให้ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดที่ประสบวาตภัยเร่งช่วยเหลือชาวบ้านด่วน
วันนี้ (5 พ.ค. 60) ที่ห้องประชุมโครงการชลประทานศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์เข้าร่วมประชุมกับนายธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจาก 3 จังหวัด ประกอบด้วย จ.สุรินทร์, จ.ร้อยเอ็ด และ จ.ศรีสะเกษ รวมทั้งแกนนำชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนราษีไศล อ.ราษีไศล และเขื่อนหัวนา อ.กันทรารมย์
พร้อมทั้งร่วมประชุมกับคณะอนุกรรมการการแก้ไขปัญหาเขื่อนหัวนา หลังจากมีปัญหายืดเยื้อยาวนานมากว่า 20 ปี หลังจากที่มีการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการเขื่อนหัวนาเมื่อ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งที่ประชุมไม่สามารถหาข้อสรุปในประเด็นสำคัญได้ คือการจ่ายเงินชดเชยให้ชาวบ้านในเขตพื้นที่เส้นสีแดง คือที่ระดับน้ำหน้าเขื่อน +112 ม.รทก. และระดับ +114 ม.รทก. ในระดับน้ำท้ายเขื่อน ซึ่งแต่ละปีจะมีปริมาณน้ำมากน้อยไม่เท่ากัน
ทำให้ตัวแทนชาวบ้านไปยื่นข้อเสนอให้กรมชลประทานจ่ายเงินชดเชยให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจริง คือระดับเส้นแดง ที่ตกลงกับที่ประชุมในคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาระดับจังหวัดที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ที่ประชุมยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ จึงต้องหารือเพิ่มอีกครั้งวันนี้ ซึ่งกลุ่มตัวแทนชาวบ้านนำโดยนายปัญญา คำลาภ ได้เข้าร่วมประชุมหารือ และร่วมแสดงความคิดเห็น เพื่อหาทางออกร่วมกันครั้งนี้ด้วย
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ตนและคณะได้ลงมาสำรวจตรวจสอบพื้นที่ที่มีปัญหา และเพื่อกดดันให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาเขื่อนราษีไศล และเขื่อนหัวนาอย่างจริงจัง โดยจากการที่ได้รับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว ตนจะนำข้อมูลไปประชุมพิจารณาแก้ไขปัญหาร่วมกับทุกฝ่าย คาดว่าจะสามารถแก้ปัญหาทั้งหมดให้แล้วเสร็จได้ภายใน 6 เดือน
ส่วนกรณีที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนองในหลายพื้นที่ของภาคอีสาน ทำให้บ้านเรือนชาวบ้าน และพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายนั้น ตนได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบให้เร่งช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากวาตวัยโดยด่วนที่สุด พร้อมทั้งให้ประสานงานกับกรมอุตุนิยมวิทยาเพื่อแจ้งเตือนให้ประชาชนระมัดระวังพายุฝนฟ้าคะนองที่อาจจะเกิดขึ้นได้
