ตาก - ลูกจ้างต่างด้าวถูกเพื่อนหลอกขายของขลังอ้างหลบตำรวจได้แต่ไม่ขลังจริง ก่อนก่อเหตุยกเค้าบ้านนายจ้าง ขโมยทองและเงินสด ก่อนหลบหนี แต่ไปไม่รอดถูกตำรวจสืบสวน สภ.พบพระจับได้พร้อมของกลางขณะกำลังจะหลบหนีข้ามชายแดน
พันตำรวจโท ปพน โสพัฒน์ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.พบพระ จังหวัดตาก นำกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวนพบพระเข้าไปตรวจสอบเหตุคนร้ายงัดบ้านพักของนายจ้างและขโมยทรัพย์สินไปหลายรายการ โดยเหตุเกิดที่บ้านพักตากอากาศกลางดอย ภายในเขตหมู่บ้านรวมไทยสามัคคี หมู่ที่ 9 ตำบลรวมไทยพัฒนา อำเภอพบพระ จังหวัดตาก
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักกลางชุมชน และพบตัวนางธวัลพร แซ่ซ้ง อายุ 30 ปี เป็นเจ้าของบ้านยืนรอให้การต่อตำรวจด้วยสีหน้าที่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมพาตำรวจเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านเกิดเหตุ โดยพบว่าคนร้ายงัดห้องนอนของเจ้าของบ้านก่อนขโมยเอาทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำหลายเส้น และเงินสดที่เก็บไว้ภายในตู้โดนขโมยหายไปจนหมด
ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.พบพระได้เร่งทำการสืบสวนซึ่งคาดว่าคนร้ายรายนี้น่าจะเป็นลูกจ้างต่างด้าวเป็นคนก่อเหตุอย่างแน่นอน เนื่องจากลูกจ้างรายนี้หายตัวไปหลังเกิดเหตุ ตำรวจจึงรีบนำกำลังไปเฝ้าซุ่มจับกุมตัวคนร้ายที่บริเวณแนวตะเข็บชายแดน จนเวลาผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงตำรวจชุดสืบสวนพบพระจึงสามารถจับกุมตัวนายอะเลย หรือ ดำริมเมย อายุ 32 ปี ได้พร้อมของกลางทั้งหมดคาชายแดนฝั่งอำเภอพบพระ ก่อนตำรวจจะนำตัวคนร้ายไปสอบสวนต่อที่สถานีตำรวจภูธรพบพระ
หลังเกิดเหตุนางธวัลพร แซ่ซ้ง เจ้าของทรัพย์สิน ได้เดินทางมาดูตัวคนร้ายพร้อมยืนยันว่าของกลางทั้งหมดเป็นของตนเอง และคนร้ายรายนี้ตนรับให้ทำงานที่บ้านได้เพียงสองเดือนไม่คาดคิดว่าจะเนรคุณ ก่อเหตุดังกล่าว
จากการสอบสวนนายอะเลย ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าก่อเหตุลักทรัพย์นายจ้างจริง โดยก่อนก่อเหตุตนมีเพื่อนให้ของขลังและคาถาอาคมโดยมีค่ายกครูเพียง 199 บาท ซึ่งเพื่อนอ้างว่าของขลังและคาถาอาคมนี้จะสามารถหลบหลีกตำรวจได้ ซึ่งตนก็หลงเชื่อ พกของขลังและท่องคาถาก่อนลงมือแอบงัดห้องพักของนายจ้างซึ่งไม่อยู่บ้าน
หลังเกิดเหตุได้หลบหนีมุ่งหน้าไปที่แนวชายแดนและท่องคาถาที่เพื่อนให้มาตลอดทาง แต่คาถาไม่ขลังจริงถูกตำรวจดักจับได้พร้อมของกลางทั้งหมดที่ยังไม่ได้ใช้เลยแม้แต่บาทเดียว ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้ควบคุมตัวนายอะเลยไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป