พิษณุโลก - เจ้าหน้าที่สนธิกำลังยึดบ้านไม้สักปลูกในอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จับกุมผู้กระทำผิด 1 ราย เป็นชายชาวศรีสะเกษย้ายมาหากินที่พิษณุโลก อ้างซื้อที่ดินต่อจากคนอื่น ไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย
นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 นายกมล นวลใย ผู้อำนวยการอุทยานแห่งชาติ นายทักษิณ มงคลคมรัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ก่อนเข้าตรวจสอบพื้นที่ หลังมีผู้ร้องเรียนว่ามีนายทุนเข้ามาซื้อที่ดินต่อจากชาวบ้านในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ปลูกบ้านไม้สักหลังใหญ่บนพื้นที่กว่า 3 งาน บริเวณหมู่ 1 ต.บ้านแยง อ.นครไทย จากนั้นนำกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าทำการตรวจยึดและรื้อถอน
เจ้าหน้าที่ไปถึงพบนายประยูร รัตนวัน อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 582 หมู่ 1 ต.บ้านแยง อ.นครไทย เจ้าของบ้านไม้สักหลังดังกล่าว ยอมรับความผิด พร้อมยินดีที่จะย้ายบ้านไม้สักออกจากพื้นที่ และเป็นผู้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบริเวณบ้านไม้สักด้วยตนเอง ก่อนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมควบคุมไป สภ.บ้านแยง เพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54
นายนิพนธ์กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเดิมเป็นของ นายวิโรจน์ ขำช้าง ซึ่งได้ถือครองตามมติ ครม. 30 มิถุนายน 2541 (CN10 บ้านแยง) เนื้อที่ 26 ไร่ ซึ่งมีการผ่อนปรนให้อาศัยทำกินได้ แต่ห้ามซื้อขายเปลี่ยนมือโดยเด็ดขาด แต่ต่อมานายประยูร ซึ่งได้ย้ายครอบครัวมาจาก จ.ศรีสะเกษ มาอาศัยที่บ้านหลังเขา ต.บ้านแยง อ.นครไทย เพื่อทำอาชีพรับจ้างทำเกษตรตั้งแต่ปี 2537 โดยไม่มีที่ทำกิน ไม่มีบ้านอาศัย ต่อมาได้รู้จักกับนายวิโรจน์ เจ้าของที่ดินดังกล่าว นายประยูรจึงได้ขอแบ่งซื้อที่ดินจากนายวิโรจน์ จำนวน 5 ไร่ ในปี 2547 ทำการปลูกบ้านไม้สักเพื่ออาศัยและทำกิน โดยอ้างว่าไม่ทราบว่าเป็นการทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ทางเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าที่ดินดังกล่าวอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ซึ่งมีการผ่อนปรนให้อาศัยทำกินได้ แต่ห้ามซื้อขายเปลี่ยนมือโดยเด็ดขาด
ด้านนายทักษิณ มงคลคมรัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง กล่าวอีกว่า พื้นที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงมีพื้นที่กว่า 800,000 ไร่ ได้มีการกันพื้นที่ออกให้เป็นที่ดินทำกินของประชาชน จำนวน 3,000 แปลง รวมเนื้อที่กว่า 70,000 ไร่ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นที่ดินของ นายวิโรจน์ ขำช้าง สำหรับเรื่องดังกล่าวนี้อยากให้ประชาชนที่ได้รับที่ดินทำกินดังกล่าวอย่าได้ทำการซื้อขายหรือแบ่งขายให้ใครก็ได้เพราะถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย เพราะวัตถุประสงค์นั้นเพื่อต้องการให้ใช้ที่ดินเป็นที่ทำกินเท่านั้น