ผกก.-ผู้ค้า-คนเที่ยว ยันไร้เด็กเร่ค้ากามกลางถนนคนเดินปาย

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ทั้งผู้กำกับ ผู้ค้า ผู้ประกอบการผับ/บาร์ ยันนักท่องเที่ยวเรียงหน้ายัน ไร้เด็กต่ำ 18 เดินเร่ขายตัวกลางถนนคนเดินปาย แม่ค้าสาวบอกเปิดแผงแบกับดิน มีหญิงลีซอขายด้วยอีก 2 ราย ตั้งแต่ก่อนเป็น “ถนนคนเดิน” จนถึงวันนี้ยังไม่เคยเห็น

พ.ต.อ.วรพล พลมณี ผกก.สภ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ได้ลงพื้นที่ถนนคนเดินปายเมื่อคืนที่ผ่านมา (1 พ.ค.) พร้อมด้วยชุดตรวจการณ์ของทหาร และฝ่ายปกครองอำเภอปาย เพื่อตรวจตราและให้กำลังใจแก่ผู้ประกอบการ พบปะพูดคุยกับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ สร้างความเข้าใจกับกรณีข่าวที่พาดพิงมาถึงถนนคนเดินปายว่ามีเด็กอายุต่ำกว่า 18 มาเดินเร่ขายบริการอย่างโจ๋งครึ่ม

ผกก.สภ.ปายเปิดเผยว่า ปกติในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หรือไฮซีซัน ก็จะมีสายตรวจเดินเท้าตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึงเวลา 24.00 น.ทุกวัน ส่วนนอกฤดูกาลท่องเที่ยวก็มีการตรวจตราอย่างสม่ำเสมอไม่ได้ปล่อยปละละเลย เป็นที่รับทราบกันโดยทั่วไปว่า ถนนคนเดินปายมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจตรากันเป็นประจำอยู่แล้ว

แต่เมื่อมีข่าวไม่ดีเกิดขึ้นก็เลยต้องการมาตรวจเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งตั้งแต่มีถนนคนเดินเมืองปายเกิดขึ้นมาก็ไม่เคยพบ หรือได้รับแจ้งว่ามีการเตร็ดเตร่เร่ขายประเวณีแต่อย่างใด ร้านค้า ร้านอาหาร และร้านจำหน่ายเครื่องดื่มต่างๆ ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ช่วยกันตรวจสอบดูแลกันอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว

และในเวลา 24.00 น. ทุกๆ แห่งก็จะปิดบริการพร้อมกันหมด แม้ในร้านสะดวกซื้อต่างๆ ก็งดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และจะมีรถสายตรวจเปิดไฟกะพริบตระเวนทั้งถนนคนเดินเป็นประจำทุกคืนในช่วงเวลานั้น

ผกก.สภ.ปายได้เปิดเผยต่อไปอีกว่า จากการทักทายพูดคุยกับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ต่างก็เข้าใจในข่าวที่ได้รับมาว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เมื่อได้มาถึงสถานที่ด้วยตัวเอง ต่างมองเห็นว่าเป็นไปไม่ได้แน่นอน ส่วนเหตุผลต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางมาปายนั้น ส่วนใหญ่มาเพราะเพื่อนแนะนำ และได้ยินชื่อเสียงที่ดีของเมืองปายว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ มีธรรมชาติที่สวยงาม มีอาหารการกินที่หลากหลาย

โดยเฉพาะถนนคนเดิน ก็เป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวทุกคนจะพลาดไม่ได้ในการมาเยือนเมืองปาย เพราะมีกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ มีร้านค้าที่น่าสนใจทั้งงานศิลปะ ของที่ระลึก ผลิตภัณฑ์จากชนเผ่า และอาหารนานาชาติที่อร่อย ไม่แพง และที่สำคัญที่สุดคือผู้คนเป็นมิตร รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นปลอดภัยเมื่อได้มาเที่ยวเมืองปาย สร้างความประทับใจได้ในทุกครั้งที่มา และได้บอกต่อกันไปเรื่อยๆ ถึงความสวยงามและเสน่ห์ของเมืองปาย และต่างเชื่อมั่นว่าไม่มีเหตุการณ์อย่างที่เป็นข่าวไม่ดีออกไปอย่างแน่นอน และพร้อมจะกลับมาเยือนเมืองปายเมื่อมีโอกาส

นอกจากนี้ พ.ต.อ.วรพล พลมณี ได้กล่าวเสริมว่าอยากจะเชิญชวนมาเที่ยวเมืองปายในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวแบบนี้ เพราะเมืองปายสามารถเที่ยวได้ทุกฤดู ถนนคนเดินก็มีเป็นปกติทุกวัน ที่พักไม่แพง นักท่องเที่ยวก็ไม่มากเกินไปทำให้สะดวกสบาย เมืองปายพร้อมจะต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคน

บรรยากาศทั่วไปของถนนคนเดินปายยังคงคึกคักแม้จะไม่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเหมือนในช่วงฤดูหนาวซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว แต่ร้านค้าร้านอาหารต่างๆ ก็ยังเปิดให้บริการเป็นปกติเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวยุโรปและชาวจีน มีนักท่องเที่ยวชาวไทยบ้างประปราย

นายวีระพันธ์ ปันทะนา นักท่องเที่ยวชาวไทยจากจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเดินทางมาเที่ยวปายพร้อมครอบครัว ประกอบด้วยภรรยาคือ นางจิระวรรณ์ ปันทะนา และลูกสาวอีก 3 คน เปิดเผยว่า มาเที่ยวปายเป็นประจำ ปีละหลายๆ ครั้ง เพราะอยู่ไม่ไกล และชอบบรรยากาศของเมืองปายมาก ยังเชื่อมั่นในเมืองปายว่าไม่มีเหตุการณ์อย่างที่เป็นข่าวไม่ดีแน่นอน เพราะมาเที่ยวเมืองปายติดๆ กันเป็นเวลาหลายปีแล้ว ไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างที่ว่าเลย

“เมืองปายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับครอบครัว พาเด็กๆ มาเที่ยวได้ ถ้าเป็นอย่างในข่าวคงไม่กล้าที่จะพาลูกสาววัยกำลังโตมาเที่ยวแน่ๆ และอยากจะให้เมืองปายเป็นอย่างนี้ตลอดไป มีเสน่ห์ มีที่เที่ยวที่น่าสนใจที่หลากหลาย และคิดว่าในระยะเวลาอันใกล้นี้ก็จะมาอีก และจะมาเป็นประจำตลอดไป”

นายสรพงษ์ มุลเล่อร์ เจ้าของร้านวายน็อตบาร์ Why not bar? ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เป็นคนปายโดยกำเนิดและอยู่บ้านตรงนี้ที่เปิดร้านมาตั้งแต่เด็กจนปัจจุบัน เห็นถนนคนเดินมาตลอด เมื่อก่อนเปิดร้านขายเสื้อผ้าที่บ้าน ต่อมาได้เปลี่ยนมาเปิดเป็นบาร์ขายเครื่องดื่มค็อกเทลให้แก่นักท่องเที่ยว ที่บาร์ของตนไม่มีผู้หญิงนั่งดริงก์คอยเรียกแขกเหมือนอย่างเมืองท่องเที่ยวอื่นที่นักท่องเที่ยวสายบันเทิงชอบไปกัน

และทุกๆ บาร์ที่เมืองปายก็จะเป็นลักษณะอย่างเดียวกันหมด เน้นขายเครื่องดื่มเพื่อบริการแก่นักท่องเที่ยวเท่านั้น ไม่ได้แฝงขายบริการอย่างอื่น เห็นข่าวเรื่องค้ามนุษย์และมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 เดินเร่ขายบริการบนถนนคนเดินปาย ก็รู้สึกไม่ดีและตกใจ เพราะไม่เคยพบมาก่อนทั้งๆ ที่อยู่ตรงนี้มาตลอด

“ส่วนตัวก็เคยมีนักท่องเที่ยวถามถึงบ้าง แต่เป็นส่วนน้อยและตนก็ได้ปฏิเสธไปทุกครั้ง เพราะมันไม่มีจริงๆ อยากให้นักท่องเที่ยวเข้าใจว่าการมาเที่ยวเมืองปายไม่ใช่เป็นอย่างที่เป็นข่าวแต่อย่างใด”

นางสาวกมลกรณ์ ดวงคำสวัสดิ์ เจ้าของร้านขายเครื่องประดับทำมือและของที่ระลึก ได้เปิดเผยว่า เปิดร้านขายตั้งแต่เป็นแผงแบกะดินยังไม่มีถนนคนเดินเลย ช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2549 มีแค่ตนกับหญิงชาวลีซอแก่ๆ อีกสองคน ต่อมาเดือนธันวาคมปีเดียวกันก็ได้มีการเปิดถนนคนเดินขึ้นอย่างเป็นทางการ ตนก็ขายอยู่ตรงนี้มาตลอด อยู่กับถนนคนเดินมาตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบัน

เมื่อได้ยินข่าวว่ามีการเดินเร่ร่อนขายบริการของเด็กสาวอายุต่ำกว่า 18 ก็รู้สึกประหลาดใจว่าข่าวมาได้อย่างไร เพราะไม่เคยเห็น และขอยืนยันว่าไม่มีอย่างแน่นอน เมืองปายเป็นเมืองเล็ก ถ้ามีเหตุการณ์อะไรที่ไม่ปกติก็จะรับทราบกันทั่ว ผู้ประกอบการที่ถนนคนเดินก็รู้จักกันหมด มีการพูดคุยกันทุกคน ต่างก็ไม่เคยพบไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีเช่นกัน

ทั้งนี้ ข่าวกรณีค้ามนุษย์กรณีน้ำเพียงดิน แม่ฮ่องสอน และได้มีข่าวพาดพิงมาถึงเมืองปายว่ามีเด็กอายุต่ำกว่า 18 เดินเร่ขายประเวณีกันอย่างโจ๋งครึ่มบนถนนคนเดินปายจากการเสนอข่าวของสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากในเมืองปาย

และเหตุการณ์ได้ลุกลามไป มีการขยายข่าวโดยทนายความผู้อื้อฉาวระดับประเทศรายหนึ่งที่พยายามเข้าไปมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์หรือคดีดังๆ ของประเทศ มีการไปให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ช่องดัง ขยายความจากข่าวที่เกิดขึ้น แสดงให้เห็นว่าการนำเสนอข่าวในด้านลบที่ไม่เป็นความจริงออกไป ทำให้เสียภาพลักษณ์และเสียบรรยากาศการท่องเที่ยว

ซึ่งผู้ประกอบการ และประชาชนชาวปายต่างก็รู้สึกไม่ดีกับข่าวนี้เป็นอันมาก หลายๆ ฝ่ายจึงพร้อมใจกันลุกขึ้นมาร่วมกันต่อสู้เพื่อเมืองปาย ช่วยกันแก้ข่าวไปในสื่อต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง