ระยอง - กระทรวงพลังงาน สนับสนุนโรงอบแห้งพลังแสงอาทิตย์ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตชาใบขลู่ สินค้าโอทอปชื่อดังเมืองระยอง
วันนี้ (29 เม.ย.) นายวรพจน์ ทันดร พลังงาน จ.ระยอง พร้อมด้วย นางกัลย์ฐิตา โชคศักดาเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานงาน กระทรวงพลังงาน และคณะ พาสื่อมวลชนดูโรงอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ และชุดครอบเตาแก๊สประหยัดพลังงาน ตามโครงการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ให้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนโฮมสเตย์ (สมุนไพรชาใบขลู่) หมู่ 7 ต.ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง โดยมี นางกาญจนา บูรณชาติ ประธานกลุ่มวิสาหกิจโฮมสเตย์ (สมุนไพรชาใบขลู่) ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ นางกาญจนา บูรณชาติ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโฮมสเตย์ (ชาใบขลู่) กล่าวว่า กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ผลิตน้ำสมุนไพรชาใบขลู่ โดยขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าโอทอปเมื่อปี 2557 ได้รับรางวัลแผนประกวดธุรกิจชาใบขลู่ดีเด่น รางวัลแผนนวัตกรรมดีเด่น และรางวัลแผนวิสาหกิจชุมชนดีเด่น ของจังหวัดระยอง ต่อมา ได้รับการสนับสนุนโรงอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์พร้อมชุดครอบเตาแก๊สประหยัดพลังงาน จากกระทรวงพลังงาน ทำให้สามารถลดการใช้แก๊สหุงต้มเดือนละ 6 กิโลกรัม เนื่องจากโรงอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 3 X 4 เมตร ใช้ในการตากชาใบขลู่ สามารถลดเวลาการตากจากเดิม 1 วัน เหลือ 6 ชั่วโมง ความชื้นลดลงมาก ส่งผลให้กระบวนการอบด้วยเตาอบลมร้อนไฟฟ้าใช้เวลาน้อยลง เป็นการช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าเดือนละ 300 บาท
สำหรับรายได้จากการขายน้ำสมุนไพรชาใบขลู่ โดยจะนำรายได้ 10% ไปช่วยงานด้านสาธารณประโยชน์ สวัสดิการกลุ่มฯ 10% เก็บไว้เป็นทุน 50% ที่เหลืออีก 30% แบ่งให้แก่สมาชิกกลุ่มฯ ตกประมาณเดือนละ 10,000 บาทขึ้นไป
ด้าน นายวรพจน์ ทันดร พลังงาน จ.ระยอง กล่าวว่า กระทรวงพลังงานมีนโยบายส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนให้กลุ่มอาชีพในชุมชน เพื่อลดต้นทุนพลังงาน ในกระบวนการผลิตของชุมชน ที่มีการใช้พลังงานสิ้นเปลือง เช่น ไฟฟ้า ฟืน ถ่าน หรือแก๊สหุงต้ม โดยส่งเสริมให้มีการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงาน เพื่อต่อยอดสู่การเพิ่มมูลค่าการผลิต เพิ่มคุณภาพ และส่งเสริมด้านการตลาด
โดยให้การสนับสนุนโรงอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์พร้อมชุดครอบเตาแก๊สประหยัดพลังงาน แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนโฮมสเตย์ (สมุนไพรชาใบขลู่) ต.ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง ซึ่งเป็นสินค้ามีชื่อของท้องถิ่นจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวเข้าพักโฮมสเตย์ เป็นรายได้เสริมจากการท่องเที่ยว ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานคิดเป็น 33% ต่อปี หรือประมาณ 5,400 บาทต่อปี