พบนายทุนใหญ่ฮุบทั้งที่ ส.ป.ก.-อุทยานฯ ใน จ.กาญจนบุรี

กาญจนบุรี - ชุดพญาเสือ ร่วมพยัคฆ์ไพร และชุดฉลามขาว สนธิกำลัง จนท.หลายฝ่ายปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าเป็นวันที่ 2 พบทั้งรีสอร์ตหรู และแพกลางน้ำมีการซื้อขายเปลี่ยนมือเป็นของนายทุนใหญ่ และยังฮุบทั้งที่ ส.ป.ก.และที่อุทยานฯ คณะดำเนินการตั้งข้อหาหนัก พร้อมเตรียมพิจารณาการเพิกถอนสิทธิ

วันนี้ (27 เมย) นายยรรยง เลขาวิจิตร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง พร้อมด้วย พล.ต.ต.บัญชา ปั้นประดับ ผบก.ภ.จว.อุทัยธานี ในฐานะชุดปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และนายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ กรมอุทยานฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมที่ห้องประชุมที่ทำการอุทยานแห่งชาติไทรโยค เพื่อวางแผนการเข้าตรวจสอบ “โฮมพุเตย ริเวอร์แคว รีสอร์ท” ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย และ “เรือนแพ ริเวอร์แคว จังเกิลราฟท์” ซึ่งตั้งอยู่กลางแม่น้ำแควน้อย โดยมี นายประวัตร พวงทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียด และอธิบายการทำงานให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับทราบ

หลังจากนั้นได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด โดยชุดแรกเข้าตรวจสอบ “โฮมพุเตย ริเวอร์แคว รีสอร์ท” ซึ่งมี นายคุณากร วรรณโชติ เป็นเจ้าของ และได้แจ้งต่อคณะที่เข้าตรวจสอบว่า ผู้ครอบครองที่ดินดังกล่าวคือ นายคณิศวร์ วรรณโชติ ซึ่งเป็นบิดา และได้เสียชีวิตแล้ว โดยได้มีการสำรวจถือครองตามมติ ครม.30 เมื่อเดือนมิถุนายน 2541 ก่อนจะขยายกิจการเป็นโรงแรมกึ่งรีสอร์ต กระทั่งในปี 2545 ได้ให้ นายศุภฤกษ์ ศูรางกุล เช่าทำธุรกิจแทน โดยมี นางอุ่นนิรันดร์ วรรณโชติ เป็นผู้ทำสัญญาเช่าในระยะเวลา 15 ปี ในเนื้อที่ 207 ไร่ จากนั้นได้ให้ นายเสน่ห์ เทียมเมฆา ที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้บริหารบริษัทฯ นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และให้ข้อมูลพร้อมนำช่างรังวัดพื้นที่จนรอบ โดยพบว่า โรงแรมกึ่งรีสอร์ตแห่งนี้มีสิ่งปลูกสร้างรวม 75 รายการ

และเป็นพื้นที่บุกรุก จำนวน 207 ไร่ เจ้าหน้าที่จึงพิจารณาร่วมกันว่าที่ดินแห่งนี้มีการเปลี่ยนมือ ซื้อขายในลักษณะให้เช่าเพื่อหลีกเหลี่ยงการตรวจสอบ จึงแจ้งข้อกล่าวหา มีเจตนาบุกรุกยึดถือครอบครอง มีการซื้อขายเปลี่ยนมือ และสร้างสิ่งปลูกสร้างโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต และตั้งข้อกล่าวหาคณะกรรมการผู้บริหารฯ จำนวน 3 ราย เพื่อให้พนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ส่วนเจ้าหน้าที่ชุดที่ 2 ได้เข้าตรวจสอบ “แพจังเกิ้ล ราฟท์” ที่จดทะเบียนในนาม บริษัท ริเวอร์แคว โพลทเทล จำกัด มีกรรมการผู้จัดการคนเดียวกับบริษัทโฮมพุเตย จำกัด คือ นายศุภฤกษ์ ศูรางกุล ซึ่งเมื่อคณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบก็พบ นายธวัชชัย ศรวัตร์ ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการ และได้รับมอบอำนาจจาก นายศุภฤกษ์ ให้เป็นผู้นำคณะเข้าตรวจสอบ และให้ข้อมูอต่อเจ้าหน้าที่

เบื้องต้นทราบว่า พื้นที่บนบกเป็นพื้นที่ในความดูแลของ ส.ป.ก.และอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค ซึ่ง นายธวัชชัย ให้การว่า พื้นที่ด้านบนเป็นพื้นที่ ส.ป.ก.ที่มีผู้ครอบครอง 4 ราย คือ 1.นางวนิดา จงวิไลเกษม 2.นางสาวโนรี จงวิไลเกษม 3.นายโชติช่วง ศูรางกุล และ 4.น.ส.สุวิมล งานศรีวิโรจน์ รวมเนื้อที่ทั้งหมด 210 ไร่ และเมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดยังพบว่า ผู้ครอบครองรายที่ 3 และ 4 เป็นคณะกรรมการของบริษัท ริเวอร์แคว โพลทเทล และบริษัท เซเรนนาต้า โฮเทล แอน รีสอร์ต กรุ๊ป จำกัด

โดยเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ลงความเห็นว่า หากมีรายชื่อ และไม่เป็นผู้ยากไร้ถือว่าไม่มีคุณสมบัติที่จะครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. จึงเสนอให้เพิกถอนรายชื่อผู้ครอบครองทั้ง 4 แปลง ที่มีการใช้ประโยชน์ร่วมกับแพจังเกิ้ล ราฟท์ เนื่องจากเมื่อเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเดินสำรวจแล้วพบว่า พื้นที่ ส.ป.ก. ทั้ง 4 แปลง เป็นผู้ใช้ประโยชน์กลุ่มเดียวกัน คือ กลุ่มบริษัท เซเรนนาต้า โฮเทล แอน รีสอร์ต กรุ๊ป จำกัด จึงตั้งข้อห้าบุกรุก ยึดถือครอบครอง แสวงหาผลประโยชน์ สร้างสิ่งปลูกสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำยานพาหนะเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค โดยไม่ได้รับอนุญาต

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ กล่าวว่า การตรวจสอบโฮมพุเตย พบว่า มีการเช่าซื้อทำสัญญาในระยะ 15 ปี ซึ่งเป็นพื้นที่ให้แก่เกษตรกรผู้ยากไร้ได้ทำการเกษตร แต่ปัจจุบันพบว่ามีการซื้อขายเปลี่ยนมือมาทำธุรกิจโรงแรม โดยมีบริษัทยักษ์ใหญ่เป็นเจ้าของ และนายทุน และบริษัทยักษ์ใหญ่ดังกล่าวยังเป็นเจ้าของเรือนแพจังเกิ้ลราฟท์ด้วย จากนี้จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการเพิกถอนสิทธิหรือไม่