มหาสารคาม - ตำรวจเมืองตักสิลา รวบ 2 หัวขโมยแก๊งลักรถจักรยานยนต์ ขณะที่เพื่อนร่วมขบวนการอีก 2 คน หลบหนีไปได้ สารภาพตระเวนโจรกรรม จยย.บิ๊กไบค์ตามหอพักนักศึกษาทั้งในมหาสารคาม และขอนแก่น ได้ค่าจ้างคันละ 2,000 บาท หลังลักมาได้จะส่งขายตามออเดอร์ฝั่งเขมร คันละ 10,000-20,000 บาท
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (26 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พล.ต.ต.อภิศักดิ์ เดชะคำภู ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรศักดิ์ เปลี่ยนขำ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กันทรวิชัย และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายพงศกร หรือแบงค์ คําเครือ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 277 หมู่ 12 บ้านท่าสองคอน ต.ท่าสองคอน อ.เมือง จ.มหาสารคาม และนายภพพล หรือต้น เตือนศรี อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 9 บ้านหนองโจด ต.โคกก่อ อ.เมือง จ.มหาสารคาม
พร้อมด้วยของกลางรถยนต์โตโยต้า รุ่นโคโรลล่า สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 กพ 9716 กทม รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีฟ้าขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ประแจบล็อกรูปตัวที พร้อมเหล็กแหลม จำนวน 3 ตัว โดยแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
พล.ต.ต.อภิศักดิ์ เดชะคำภู ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สืบเนื่องจากในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา มีคดีลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่เกิดขึ้นกว่า 30 ครั้ง ส่วนใหญ่ผู้เสียหายเป็นนิสิตนักศึกษาที่อาศัยอยู่หอพักในเขตอำเภอเมืองมหาสารคาม และอำเภอกันทรวิชัย และรถส่วนใหญ่จะเป็นรถรุ่นใหม่ และรถขนาดใหญ่ ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 50,000 บาท ไปจนถึงคันละกว่า 100,000 บาท
แก๊งโจรกรรมดังกล่าวทำเป็นขบวนการ ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพว่าได้ร่วมกับพวกอีก 3 คน คือ นายบุญเกิด ภูมิโชติ อายุ 38 ปี ชาวลำลูกกา จ.ปทุมธานี เป็นหัวหน้าแก๊ง นายอดิศร เชื้อจิตร อายุ 21 ปี และนายเมธี สมประสิทธิ์วิทย์ อายุ 22 ปี โดย นายอดิศร นั้นถูกจับได้แล้วขณะนี้อยู่ในเรือนจำจังหวัดจันทบุรี แต่อีก 2 คน ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ขออำนาจศาลออกหมายจับไปแล้ว
จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองคนรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุในเขต สภ.เมืองมหาสารคาม สภ.กันทรวิชัย สภ.เมืองร้อยเอ็ด สภ.เมืองบุรีรัมย์ และ สภ.เมืองขอนแก่น รวมกว่า 100 คัน โดยจะเลือกขโมยเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่มีราคาแพง เช่น ยามาฮ่า M-Slaz ยามาฮ่า R-15 ฮอนด้า CBR ฮอนด้า MSX คาวาซากิ KSR โดยใช้รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของกลางขับตระเวนหารถเป้าหมายตามหอพัก
เมื่อพบรถเป้าหมาย นายอดิศร นายเมธี จะใช้เหล็กแข็งรูปตัวทีทำลายกุญแจ จากนั้น นายพงศกร และนายภพพล จะขับขี่ไปพักรถที่บ้านนานกเขียน ต.หนองโน อ.เมืองมหาสารคาม เพื่อเปลี่ยนบล็อกกุญแจก่อนที่จะขับขี่ไปส่งยังจุดหมายที่อำเภอโนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ทั้งนี้ มีนายบุญเกิด เป็นผู้สั่งการ และติดต่อผู้รับซื้อจากประเทศกัมพูชา ก่อนจะขนส่งรถไปกัมพูชา ขายในราคาคันละ 10,000-20,000 บาท ส่วนผู้ต้องหาทั้งสองได้รับค่าจ้างครั้งละ 2,000 บาท
ด้าน น.ส.จิราภา แพงไธสง นิสิตชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หนึ่งในผู้เสียหายถูกขโมยรถจักรยานยนต์ กล่าวว่า ได้จอดรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ซูเมอร์ เอ็กซ์ ที่เพิ่งดาวน์ออกมาใช้ได้ 4 เดือน จอดไว้ที่หอพัก โดยคนร้ายได้เข้ามาโจรกรรมไปเมื่อตอนตี 3 ของวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา แต่ทางหอพักได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาได้
สำหรับรถที่หายไปนั้นไม่ได้คืนเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า รถถูกส่งขายไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว อยากถามคนร้ายว่าจิตใจทำด้วยอะไร ทำไมไม่คิดถึงจิตใจคนอื่นบ้างว่าจะใช้ชีวิตลำบากเพียงไหน ต่อไปคงให้เป็นเรื่องของบริษัทประกันที่จะชดใช้ค่าเสียหาย แต่คงไม่ได้เต็มราคารถแน่นอน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน จากนั้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป