ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รอง ผบช.ภาค 5 ประชุมทีมสืบสวนวางกรอบการทำงาน ขยายผลคดีค้ากามแม่ฮ่องสอนหาผู้เสียหายและผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม รวมทั้งสาวถึงกลุ่มผู้ใช้บริการที่ถูกระบุว่ามีกลุ่มข้าราชการระดับสูงรวมอยู่ด้วย ส่วนกรณีผู้ว่าฯ ถูกพาดพิงเป็นหนึ่งในผู้ใช้บริการอย่าเพิ่งด่วนสรุป ย้ำเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อทำความจริงให้ปรากฏ
วันนี้ (26 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ปฏิบัติราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ซึ่งได้รับมอบหมายให้สืบสวนขยายผลคดีการค้าประเวณีและการค้ามนุษย์ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน จากกรณีที่ผู้เป็นแม่ร้องเรียนว่าลูกสาวถูกบังคับให้ค้าประเวณีโดยที่มีตำรวจในพื้นที่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เป็นประธานประชุมหารือวางแนวทางการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนในคดีนี้
พล.ต.ต.ภาณุเดชเปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบสืบสวนคดีนี้ เพื่อตรวจสอบและขยายผลว่าในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีลักษณะการค้าประเวณีหรือการค้ามนุษย์อย่างไรบ้าง ตามข้อมูลที่ผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลกับทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทั้งจะมีการสืบสวนว่ายังมีผู้เสียหายรายอื่นๆ และมีผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกหรือไม่อย่างไร รวมทั้งการสืบสวนในส่วนของผู้ที่ใช้บริการตามที่ผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลด้วย
ทั้งนี้ การประชุมนี้เพื่อเป็นการวางกรอบภารกิจหน้าที่ และแนวทางการดำเนินคดี โดยมุ่งจะทำความจริงให้ปรากฏว่าตรงตามข้อมูลที่ผู้เสียหายได้แจ้งไว้หรือไม่ ทั้งการที่มีการระบุว่าผู้ใช้บริการเป็นข้าราชการทั้งระดับสูงและทุกระดับ ซึ่งจะทำงานอย่างเต็มที่และเร่งทำความจริงให้ปรากฏ ด้วยการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานว่ามีผู้ใดเข้ามาเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีหรือการค้ามนุษย์ในกรณีนี้บ้าง ที่รวมไปถึงผู้ใช้บริการด้วย ส่วนจะมีการเชิญผู้ใดเข้าให้ปากคำหรือไม่นั้น ต้องเป็นไปตามพยานหลักฐาน
สำหรับการที่มีการระบุว่ามีผู้ว่าราชการจังหวัดเข้าไปเกี่ยวข้องในฐานะผู้ใช้บริการด้วยนั้น พล.ต.ต.ภาณุเดชกล่าวว่า ในเบื้องต้นยังต้องทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเสียก่อน เพื่อพิจารณามากกว่าเพียงคำให้การของผู้เสียหายเท่านั้น ส่วนกรณีที่ฝ่ายผู้เสียหายถูกกว่าวหาว่ามีประวัติกระทำความผิดในเรื่องอื่นๆ นั้น เป็นคนละเรื่องกันกับการดำเนินการสืบสวนในคดีนี้
นอกจากนี้ พล.ต.ต.ภาณุเดชกล่าวถึงกรณีที่มีการย้ายตำรวจ 4 นายออกจากพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน หลังจากที่ทางแม่ผู้เสียหายไปร้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจยศ พ.ต.ท.นายหนึ่งว่า เบื้องต้นทราบว่ามีการสั่งย้าย แต่ส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียดและเหตุผลที่ชัดเจน ซึ่งเป็นไปตามดุลพินิจของผู้บังคับบัญชา
วันเดียวกันที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีรายงานว่า พ.ต.ท.สพลพันธ์ พูลน้อย รอง ผกก.ป้องกันปราบปราม สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ได้เรียกผู้ประกอบการที่พักโรงแรม เกสต์เฮาส์ ร้านอาหาร และสถานบันเทิง กว่า 50 แห่ง เข้าประชุม เพื่อชี้แจงให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ด้านนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยืนยันว่า ไม่ได้ตกใจที่มีข่าวว่าตนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของการค้าประเวณี ซึ่งได้เตรียมหลักฐานทุกอย่างแล้ว เพราะตนเป็นคนไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และไม่เที่ยวสถานบันเทิง เวลาจะไปไหนก็มีทั้งเจ้าหน้าที่และเลขาฯ ประจำตัวทุกครั้ง และใช้รถยนต์ประจำตำแหน่งตลอดเวลา มีการบันทึกการเดินทางและการทำงานทุกครั้ง
“ขณะนี้เรื่องทุกอย่างได้เข้าสู่กระบวนการสอบสวนของคณะกรรมการกระทรวงมหาดไทยแล้ว ซึ่งคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย และระเบียบวินัยของข้าราชการ โดยทางกระทรวงฯ ได้ขอให้ยุติการให้สัมภาษณ์หรือชี้แจงแก้ข่าวใดๆ เพราะจะเป็นการแก้ตัวและทำให้เกิดปัญหาไม่จบ ต้องให้คณะกรรมการเป็นฝ่ายดำเนินการ โดยทางกระทรวงมหาดไทยจะชี้แจงเอง”
