อ่างทอง – แม่น้องเจมส์ วอนช่วยเหลือลูกสาววัย 21 ปี ที่ต้องพิการจากอุบัติเหตุถูกรถพ่วงเฉี่ยวชนขณะขี่รถจักรยานยนต์ไปหาเพื่อนที่หอพัก ส่วนเพื่อนเสียชีวิตคาที่ แม่ต้องคอยดูแลไร้งานไร้รายได้
วันนี้ (26 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องขอจาก นางสายฝน ปัญญาดี ให้ช่วยเหลือ น.ส.กนกกาญจน์ มั่นคง หรือน้องเจมส์ อดีตสาวโรงงาน วัย 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/2 หมู่ที่ 4 ตำบลราชสถิตย์ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง ที่ต้องประสบอุบัติเหตุหลังถูกรถพ่วงเฉี่ยวชน ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์มากับเพื่อน เพื่อที่จะเดินทางไปหาเพื่อนอีกคนหนึ่งที่หอพัก จนเพื่อนที่ซ้อนท้ายมาด้วยกันเสียชีวิตคาที่ ส่วนตัวเองต้องพิการทางสมอง นอนใส่สายยางให้อาหาร แม้จะสวมหมวกนิรภัยป้องกันแล้วก็ตาม ส่วนแม่ต้องออกจากงานที่รับจ้างดูแลผู้สูงอายุมาคอยเลี้ยงดูลูกสาวอยู่ที่บ้าน ทำให้ไม่มีรายได้มาจุนเจือครอบครัว แถมรถกระบะที่เจ้าตัวซื้อเอาไว้ใช้หวังให้ครอบครัวสบาย ต้องขาดส่งไฟแนนซ์กำลังจะถูกยึดไปในไม่ช้า ด้านคู่กรณียังเงียบไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหาย เพียงแต่จ่ายค่ายานอกให้ จำนวน 70,000 บาท ส่วนคดียังไม่คืบหน้า ได้รับการเปิดเผยจากพนักงานสอบสวนว่าอยู่ระหว่างดำเนินคดี
นางสายฝน ปัญญาดี แม่น้องเจมส์ เปิดเผยว่า น้องเจมส์ เหมือนเป็นเสาหลักของบ้าน หลังจากเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 6 ได้สมัครเข้าทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งในอำเภอม่วงค่อม จังหวัดสระบุรี ได้เงินเดือนประมาณ 18,000 บาท ส่วนตนเองมีรายได้จากการรับจ้างดูแลผู้สูงอายุในหมู่บ้านได้รับค่าจ้างวันละ 300 บาท ตนเองกับสามีได้เลิกรากันไปนานแล้ว ต้องอาศัยอยู่กับลูกสาวเพียง 2 คน ที่ผ่านมา บุตรสาวเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการเลี้ยงดูครอบครัวมาโดยตลอด เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา หัวใจตนเองแทบสลายเมื่อได้รับแจ้งว่า น้องเจมส์ ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถพ่วง ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ส่วนเพื่อนที่ซ้อนมาด้วยเสียชีวิตคาที่ ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในจังหวัดสระบุรี และย้ายมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลอ่างทอง จนแพทย์อนุญาตให้กลับมาพักรักษาตัวที่บ้านได้ เมื่อวันที่ 11 เม.ย.60 พร้อมได้ออกเอกสารรับรองความพิการ โดยพิจารณาจากความบกพร่องให้ และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ออกหนังสือรับรองใช้แทนบัตรประจำตัวคนพิการไว้ให้แล้ว
ในส่วนของคู่กรณีก็เงียบหายไป หลังที่เคยพูดคุยตกลงกันเรื่องค่าเสียหาย แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ เมื่อสอบถามไปยังพนักงานสอบสวนในเรื่องของคดีความ และทางบริษัทประกันภัยที่ยังไม่ได้รับเงินค่าประกันภัย ก็ได้รับคำตอบจากพนักงานสอบสวนว่า อยู่ระหว่างดำเนินคดี และประสานไปทางบริษัทประกันภัยที่ลูกสาวทำประกันภัยไว้แจ้งมาว่าต้องได้บัตรประจำตัวผู้พิการที่เป็นบัตรแข็งตัวจริงมา และให้แพทย์รักษาให้เป็นที่สิ้นสุดเสียก่อน จึงจะสามารถได้รับเงินค่าประกันภัยจากบริษัท ซึ่งตนเองก็ยังมีความสงสัยอยู่ว่าทางหน่วยงานราชการได้ออกหนังสือแทนมาให้แล้ว พร้อมแพทย์ก็ได้ออกเอกสารรับรองความพิการให้ จนผู้ได้รับบาดเจ็บก็กลับมารักษาตัวอยู่ที่บ้านแล้ว ทำไมยังไม่ได้เงินค่าประกัน ซึ่งทุกวันนี้เงินที่ได้จากเพื่อนร่วมงานที่ร่วมใจกันบริจาคเพื่อช่วยเหลือก็เริ่มจะหมดแล้ว ตนเองก็ไม่สามารถออกไปหางานทำได้ เนื่องจากต้องคอยดูแลลูกสาวที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ ส่วนรถกระบะที่ลูกสาวซื้อไว้ให้ใช้ ตอนนี้เอาไว้ใช้รับส่งลูกสาวเวลาที่ต้องไปตรวจดูอาการทุกเดือนก็ไม่มีเงินส่งจนอาจจะถูกยึด ซึ่งเบื้องต้น ทางหน่วยงานราชการและผู้ใหญ่บ้านได้เข้ามาดูแลให้ความช่วยเหลือได้บ้างตามระเบียบของทางราชการ แต่อยากจะวอนขอผู้ใจบุญที่มีจิตเมตตาให้การช่วยเหลือลูกสาวเคราะห์ร้ายที่ตนเองจะต้องคอยเลี้ยงดูต่อไป
หากผู้ใจบุญที่มีจิตศรัทธาต้องการที่จะช่วยเหลือสามารถติดต่อประสานงานได้ที่ ผู้ใหญ่พิชัย หาญกล้า ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ตำบลราชสถิตย์ หมายเลขโทรศัพท์ 08-9507-4745 หรือนางสายฝน ปัญญาดี (หมวย) บัญชีเผื่อเรียก ธนาคารออมสิน สาขาอ่างทอง หมายเลขบัญชี 020044748919 หมายเลขโทรศัพท์ 09-8217-1802