ศูนย์ข่าวศรีราชา - ภาคธุรกิจพัทยา ห่วงปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยว ผลพวงโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 วอนผู้เกี่ยวข้องหามาตรการรองรับปัญหาที่อาจจะเกิด ด้านที่ปรึกษาโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ให้ความมั่นใจการพัฒนาดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบด้านการท่องเที่ยวแน่นอน
วันนี้ (24 เม.ย.) ที่โรงแรมฟลิปเปอร์ เฮ้าส์ พัทยา จ.ชลบุรี ตัวแทนจากสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา พร้อมด้วยสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก ชมรมแหล่งท่องเที่ยวเมืองพัทยา และกลุ่มผู้ประกอบการภาคธุรกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองพัทยา และจังหวัดชลบุรี ประชุมร่วมกับคณะที่ปรึกษาท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี
เพื่อรับฟังข้อมูลความคืบหน้าด้านวิศวกรรมการเงิน และสิ่งแวดล้อมในโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 รวมทั้งการสอบถามข้อสงสัย ข้อห่วงใย และข้อเสนอแนะต่อโครงการดังกล่าวที่ระบุว่าอาจส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาได้ในอนาคต
นายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร สมาชิกสภาเมืองพัทยา กล่าวว่า สำหรับโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 ถือเป็นโครงการใหญ่ระดับประเทศ เพื่อต้องการพัฒนาขีดความสามารถในการรองรับการขนส่งตู้สินค้า หรือเป็น Hub ของภูมิภาคนี้ แต่การพัฒนานี้ย่อมส่งผลกระทบต่อพื้นที่ในหลายด้าน
ซึ่งที่ผ่านมา จากการจัดทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชนนั้น ส่วนใหญ่จะมีการหยิบยกกรณีของปัญหาเรื่องทำกิน เช่น ประมงชายฝั่ง และเรื่องของสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก แต่ไม่มีการพูดถึงกรณีผลกระทบด้านการท่องเที่ยว
โดยเฉพาะพื้นที่เมืองพัทยาซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน ที่สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศจากการท่องเที่ยวปีละนับแสนล้านบาท เนื่องจากการพัฒนาท่าเรืออาจส่งผลถึงเรื่องการกัดเซาะ สภาพของน้ำทะเล ซึ่งถือเป็นจุดขายสำคัญของเมืองพัทยาได้ จึงอยากให้นำกรณีดังกล่าวไปทำการศึกษาเพื่อรองรับหรือปรับแผนการพัฒนาต่อไป
ด้าน นายราชัย ชลสินธ์สงครามชัย ที่ปรึกษาการโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ชี้แจงว่า สำหรับโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังในเฟสที่ 3 เป็นโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังซึ่งถือเป็น 1 ใน 5 ของโปรเจกต์ในการรองรับ AEC เพื่อพัฒนาศักยภาพทางด้านการค้า การขนส่ง และเป็น Hub ในภูมิภาคเอเชีย โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการสำรวจ ศึกษา ซึ่งจะครอบคลุมในทุกด้าน เพื่อให้เกิดความยั่งยืน และประโยชน์อย่างแท้จริงต่อภาพรวมต่อประเทศชาติ โดยยังไม่ได้อยู่ในขั้นของการลงทุน และก่อสร้าง
ส่วนข้อห่วงกังวลด้านผลกระทบด้านการท่องเที่ยวนั้น ทางโครงการขอยืนยันไม่ส่งผลกระทบด้านการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน แต่จะเอื้อประโยชน์ในเรื่องของการท่องเที่ยว เนื่องจากในโครงการมีการพูดคุยถึงเรื่องที่จะมีการพัฒนาพื้นที่บางส่วนให้เป็นท่าเรือท่องเที่ยวอีกด้วย
สำหรับเรื่องการกัดเซาะชายฝั่ง หรืออื่นๆ ที่เกิดอยู่ในปัจจุบันนั้นคงชี้แจงได้ว่าไม่ได้มีผลมาจากการพัฒนาท่าเรือแต่อย่างใด ขณะที่การศึกษาผลกระทบในด้านต่างๆ นั้น ตามข้อกำหนดจะมีการดำเนินการจากศูนย์กลางของโครงการในระยะรัศมี 5 กม. ซึ่งคงจะไม่ครอบคลุมพื้นที่ของเมืองพัทยา
แต่เพื่อให้คลายความวิตกกังวล ทางโครงการฯ จะจัดทำการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมชายฝั่งหรือการสำรวจสมุทรศาสตร์ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่แหลมฉบัง พัทยา บ้านอำเภอ และสัตหีบ เพื่อให้เห็นภาพรวมอย่างเป็นรูปธรรม และชัดเจน