xs
xsm
sm
md
lg

ผบช.ภาค 5 แจงกรณีแม่สาวแม่ฮ่องสอนโวย ตร.เอี่ยวบังคับเด็กค้าประเวณี ยันสอบเต็มที่ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 แจงกรณีโซเชียลวิจารณ์ยับคดีบังคับหญิงสาวค้าประเวณีที่แม่ฮ่องสอน โดยมีดาบตำรวจในพื้นที่ร่วมขบวนการด้วย หลังผู้เป็นแม่โวยลูกสาวถูกบังคับ และไม่ได้รับความเป็นธรรม ยืนยัน จนท.ไม่ได้นิ่งนอนใจ และดำเนินการจริงจัง ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ระบุกำลังเร่งสอบสวนประเด็นดาบตำรวจถูกกล่าวหา โดยล่าสุดอัยการสั่งสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณา ย้ำหากพบมีความผิดจริง พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย และลงโทษทางวินัยอย่างเด็ดขาด โดยไม่มีการเข้าข้างกัน
 



วันนี้ (23 เม.ย.) พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ชี้แจงกรณีที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะในสื่อโซเชียลกรณีตำรวจนายหนึ่งในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ถูกกล่าวหาว่าบังคับหญิงสาวให้ค้าประเวณี ซึ่งผู้เป็นแม่ของหญิงสาวได้นำเรื่องราวไปเผยแพร่ผ่านทางสื่อโซเชียลอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
 
โดยยืนยันว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งตำรวจภูธรภาค 5 และตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ดำเนินการกรณีที่เกิดขึ้นนี้อย่างจริงจัง และเต็มที่เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ซึ่งกรณีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วง พ.ย.59 ที่ผ่านมา จากการที่ผู้เป็นแม่ที่มีความคุ้นเคยกับทางเจ้าหน้าที่ในฐานะเป็นผู้ให้ข้อมูลข่าวสารอาชญากรรมต่อทางเจ้าหน้าที่ ที่บังเอิญเห็นข้อมูลการติดต่อค้าประเวณีที่มีรูปของลูกสาวตัวเองปรากฏอยู่ด้วย

ทั้งนี้ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ และทำการล่อซื้อผ่านผู้หญิงที่ชื่อ น.ส.เมย์ ซึ่งในวันที่ทำการล่อซื้อ น.ส.เมย์ ไม่ยอมปรากฏตัว แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวน และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อ น.ส.เมย์ ได้ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาทางผู้เป็นแม่ของหญิงสาวรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้องต่อกรณีดังกล่าวด้วยแต่ไม่ถูกลงโทษ หรือดำเนินคดี ทั้งที่ในความเป็นจริงได้มีสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้วทั้งทางอาญา และทางวินัย พร้อมทั้งย้ายตำรวจที่ถูกกล่าวหาออกจากพื้นที่ไปแล้วด้วย ส่วนประเด็นที่ว่ามีการใช้รถยนต์ราชการในการตระเวนรับส่งหญิงสาวไปค้าประเวณีนั้น เบื้องต้น ได้รับรายงานว่าไม่เป็นความจริง

สำหรับคดีของ น.ส.เมย์นั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินคดี ซึ่งยังไม่สิ้นสุด ส่วนกรณีตำรวจที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องต่อการค้าประเวณีนั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ก.พ.60 ทางอัยการได้มีหนังสือสั่งให้มีการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ทั้งผู้เป็นแม่ และหญิงสาว ซึ่งที่จริงอายุ 19 ปี ไม่ใช่ 16-17 ปี อย่างที่เป็นข่าว โดยเพิ่งจะสามารถติดต่อ และดำเนินการสอบปากคำเพิ่มเติมได้จนแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 25 มี.ค.60 ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่ค่อยได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร

โดยได้สรุปรายละเอียดทั้งหมดส่งให้ทางอัยการพิจารณาแล้ว และต้องรอต่อไปว่าทางอัยการจะมีผลการพิจารณาเป็นอย่างไร ซึ่งหากปรากฏว่าตำรวจนายดังกล่าวมีความผิดจริงก็จะมีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และต้องมีการลงโทษทางวินัยด้วย

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ย้ำว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นไม่ได้นิ่งนอนใจ หรือเพิกเฉยเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น และโดยตนได้ติดตามการทำงานของทางเจ้าหน้าที่มาโดยตลอด เพื่อให้ดำเนินการตามขั้นตอนทุกกอย่างโดยไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หากผิดก็ต้องว่าผิด โดยเฉพาะหากพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความผิดจะต้องลงโทษให้หนักกว่าด้วย และจะไม่มีการเข้าข้างกันแต่อย่างใด ยืนยันพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายอย่างแน่นอน

อนึ่ง กรณีนี้สืบเนื่องจากการที่ นางน้ำเพชร เกยพุฒซา อายุ 43 ปี ชาวอำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร้องเรียนสื่อกรณีลูกสาวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจน้ำเพียงดิน ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน บังคับให้ค้าประเวณีให้แก่ผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่มีทั้งตำรวจ ครู แขวงการทาง

ก่อนหน้านี้ ได้มีการร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน และตำรวจภูธรภาค 5 แล้ว แต่เรื่องกลับเงียบหายไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด และมีการอ้างว่าเป็นความเข้าใจผิดของเด็กเอง จึงทำให้ต้องตัดสินใจเดินทางเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) โดยผ่านมา 6 เดือน เรื่องยังไม่คืบหน้าแต่อย่างใด จนล่าสุดหลังจากที่ตกเป็นข่าวพบว่าทางตำรวจพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้มีการชี้แจงออกมาว่าตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนดำเนินคดีอยู่

โดยคดีนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหาย และพยานเพิ่มเติมมาโดยตลอด รวมถึงประเด็นที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย พร้อมทั้งส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมให้แก่พนักงานอัยการแล้ว คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานอัยการ

ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องต่อคดีนี้ อยู่ระหว่างตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เบื้องต้น ได้มีการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดทำคดีนี้ออกนอกพื้นที่เพื่อไม่ให้เกี่ยวข้อง หรือยุ่งเหยิงต่อพยานหลักฐานในคดีนี้ และขณะนี้ผู้เสียหาย และมารดาของผู้เสียหายได้เข้าสู่ระบบคุ้มครองพยาน ของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ แล้ว ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2560





กำลังโหลดความคิดเห็น