xs
xsm
sm
md
lg

พ่วงล้อหลุดปลิวว่อนถนน ถูกรถชาวบ้านแปดริ้ว 3 คันรวด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - รถบรรทุกพ่วงล้อหลุดหายออกมาปลิวว่อนเกลื่อนถนน ถูกรถชาวบ้านแปดริ้วพังเสียหายยับเยินถึง 3 คันรวด ขณะรถสวนทางมาถูกกระแทกอย่างจัง ทำคนเจ็บ 1 ราย ขณะคนขับอ้างไม่รู้ล้อหลุด

วานนี้ (22 เม.ย.) ร.ต.อ.บัณฑิต ทรัพย์คง รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีรถบรรทุกพ่วงทำล้อหลุดปลิวลอยออกมาพุ่งใส่ไล่ชนรถยนต์ของชาวบ้านตามเส้นทาง ก่อนทำชิ่งกระเด็นข้ามฝั่งไปมาพุ่งเข้าชนประสานงากับรถยนต์เก๋งที่กำลังสวนทางมา จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ยังไม่ยอมสิ้นฤทธิ์ กระเด็นกลับข้ามไปยังบนท้องถนนฝั่งเดิม ก่อนไปพุ่งเข้าชนกับรถบรรทุก 6 ล้อ ที่ขับตามมาภายหลังจนได้รับความเสียหายอีกคัน

เหตุเกิดบริเวณทางลงสะพานข้ามแยก สี่แยกสัญญาณไฟคอมเพล็กซ์ จุดตัดถนนสาย 304 (ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี) เชื่อมสาย 365 เลี่ยงเมือง กับถนนสาย 315 ฉะเชิงเทรา-พนัสนิคม จึงเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเลยจากบริเวณทางสี่แยกสัญญาณไฟคอมเพล็กซ์มาประมาณ 300 เมตร ด้านฝั่งทางลงสะพานข้ามแยกขาเข้ามุ่งหน้าแยกบางพระ พื้นที่ ม.4 ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา พบรถยนต์เสียหายจำนวนหลายคันจอดกระจัดกระจายรออยู่ตามรายทางทั้งด้านฝั่งขาเข้า และขาออก ส่วนรถคันก่อเหตุเป็นรถยนต์บรรทุกพ่วง 18 ล้อ แบบ 2 ตอน ยี่ห้ออีซูซุ หัวสีขาว คันหมายเลขทะเบียนหัวลาก 70-9541 เพชรบุรี หมายเลขทะเบียนหางพ่วง 70-9542 เพชรบุรี ได้ขับเลยออกไปจอดไกลห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กม. บริเวณใกล้กับเชิงสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงสายเลี่ยงเมือง

ขณะที่รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีขาว หมายเลขทะเบียน ขก 1066 นครราชสีมา ซึ่งเป็นรถที่ขับสวนทางมา และถูกล้อรถบรรทุกพุ่งข้ามฝั่งเข้ามาชนอย่างแรง จนตัวรถบริเวณห้องเครื่อง และฝากระโปรงหน้าเสียหายอย่างหนัก ได้จอดแอบชิดอยู่ข้างทางด้านฝั่งขาออก มีผู้ได้รับบาดเจ็บจุกแน่นหน้าอก จำนวน 1 ราย คือ น.ส.ศศิมา เขื่อนจันทึก อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133/4 ม.14 ต.หนองหญ้าขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

สอบสวน นางดารารินทร์ กุ่มจันทึก อายุ 43 ปี ตนขับ และเป็นมารดาให้การว่า ขณะขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุนั้นไม่ทันได้เห็นอะไร โดยเห็นเพียงแต่เงาดำๆ เป็นก้อนพุ่งเข้ามาใส่ที่ด้านหน้ารถของตนเองเท่านั้น จนทำให้รถพุ่งเข้าไปชนอย่างแรงจนตัวรถพังเสียหาย และมีกลุ่มควันขึ้นที่บริเวณด้านหน้าฝากระโปรงรถ จึงได้รีบพยายามบังคับรถนำแอบเข้าข้างทาง ก่อนที่ล้อรถจะปลิวข้ามฝั่งถนนกลับไป

หลังเกิดเหตุรู้สึกตกใจมาก เนื่องจากตนนั้นได้ขับรถมากับครอบครัว ซึ่งมีทั้งเด็กเล็ก และกลุ่มญาติพี่น้องที่เดินทางมาด้วยกัน จำนวน 9 คน ด้วยรถยนต์ 2 คัน โดยคนในครอบครัวทั้งหมดได้พากันเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ตั้งแต่เมื่อวานนี้ และกำลังจะพากันเดินทางกลับไปยัง จ.นครราชสีมา โดยในรถคันที่ตนขับมีผู้ใหญ่นั่งมา 4 คน เด็กเล็กวัย 3 ขวบ 1 คน รวม 5 คน ส่วนรถคันที่ขับตามมาด้วยกันมีผู้ใหญ่นั่งมา 4 คน ก่อนมาประสบอุบติเหตุดังกล่าวขึ้น

ขณะที่ น.ส.กรรณิการ์ มะโนวร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 ม.5 ต.สระสี่เหลี่ยม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ซึ่งนั่งมาในรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บม 9325 ฉะเชิงเทรา โดยเป็นคันแรกที่ประสบเหตุถูกล้อรถกลิ้งพุ่งชน กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนพร้อมด้วย นายกฤษณะ จุมจันทร์ อายุ 41 ปี สามี กำลังจะพาบุตรชายออกมารับประทานอาหารเย็นนอกบ้าน โดยได้ขับรถออกมาจากถนนสาย 315 เลียบคู่ขนานมากับสะพานข้ามแยก เพื่อที่จะไปกลับรถมุ่งหน้าไปยังที่ร้านชาบูชิ ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามขาออก

แต่ได้มีล้อรถบรรทุกพุ่งลงมาจากทางลงสะพานข้ามแยก ปลิวเข้ามากระแทกชนเข้ากับหัวมุมไฟท้ายของรถยนต์กระบะที่ตนนั่งมาทางด้านขวา ก่อนที่ล้อรถจะรูดไถลมาตามตัวรถจนถึงบริเวณประตูคนขับ ก่อนที่จะแฉลบกระเด็นข้ามฝั่งไปชนเข้ากับรถเก๋งคันที่ขับสวนทางมา และกระเด็นปลิวกลับมาชนเข้ากับรถบรรทุกที่ขับตามหลังมาอีกครั้ง ตนจึงได้บอกให้สามีจอดรถ และแอบเข้าข้างทาง

ด้าน นายมนตรี แก้ววิเศษ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/1 ม.8 ต.หนองน้ำใหญ่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา คนขับรถบรรทุก 6 ล้อตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 51-4431 กรุงเทพ ที่ถูกล้อรถกระเด็นกลับมาพุ่งชนเข้าที่ด้านหน้ารถอย่างจัง จนหน้ารถพังเสียหายอย่างหนัก กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถไปซื้อน้ำจิ้มไก่มาจากพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อที่จะนำกลับมาส่งที่โรงงานในเขต จ.สมุทรปราการ เมื่อมาถึงยังจุดเกิดเหตุตนไม่เห็นอะไร แต่ได้พบว่ามีล้อรถบรรทุกพุ่งข้ามฝั่งกลับมาใส่ที่หน้ารถจนรถพังเสียหายดังกล่าว

ส่วนด้าน นายชัยณรงค์ โชติขุนทศ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/32 ม.11 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี คนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ารถบรรทุกพ่วงคันที่ตนขับมานั้นล้อหลุดออกไปตั้งแต่เมื่อใด จนมีคนขับรถบรรทุกหกล้อตู้ทึบที่ขับติดตามมาช่วยชี้บอกว่าล้อรถหลุด จึงได้หยุดรถจอดลงมาดูจึงพบว่า ล้อรถในส่วนของหางพ่วงทางด้านหน้าขวา ได้หลุดหายไปทั้ง 2 ล้อ

ก่อนที่จะมีคนติดตามมาแจ้งให้ทราบถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งตนก็ไม่ทราบถึงสาเหตุว่าล้อรถนั้นหลุดออกไปได้อย่างไร ทั้งที่รถบรรทุกคันที่ตนขับมารับส่งสินค้านี้ก็เป็นรถใหม่ที่เพิ่งออกมาได้แค่เพียง 6 เดือนเท่านั้น และในขณะเกิดเหตุตัวรถไม่ได้มีเสียงดังผิดปกติอะไรออกมา และตัวรถก็ไม่ได้สายเสียหลัก หรือมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น จนกระทั่งเมื่อจอดรถลงมาดูแล้วจึงทราบ ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่าตนขับรถมาอย่างช้าๆ เพียง 50-60 กม./ชม.เท่านั้น จึงทำให้ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ซึ่งตนก็ได้ขับรถมาบรรทุกแผ่นยางพารา จากศูนย์วิจัยยางฉะเชิงเทรา ในเขตพื้นที่ ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต เพื่อนำไปส่งที่ จ.สุราษฎร์ธานี อยู่บ่อยครั้งหลายเดือนแล้ว นายชัยณรงค์ กล่าว

หลังการตรวจสอบล้อรถบรรทุกที่ปลิวหลุดออกมาจากตัวรถ และมานอนกองสิ้นฤทธิ์อยู่บริเวณไหล่ทางใกล้เชิงสะพาน 1 ล้อ และในป่าหญ้าใกล้จุดเกิดเหตุ 1 ล้อ ตลอดจนดุมเพลาของรถบรรทุกได้พบว่า นอตล็อกยึดล้อรถทั้ง 8 ตัวนั้นได้ขาดออกจากกันจนเหลือแต่เพียงโคนนอตหมดทุกตัว จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ล้อรถหลุด และปลิวไปตกใส่ไล่ชนรถของผู้ใช้เส้นทางรายอื่นๆ จนพังเสียหายจำนวนหลายรายในครั้งนี้



กำลังโหลดความคิดเห็น