เชียงราย - เรือสำรวจ พร้อมทีมเจ้าหน้าที่บริษัทเอกชนจีน เริ่มเดินหน้าสำรวจร่องน้ำโขงวันแรกแล้ว ประเดิมเจาะชั้นหิน-ดินกลางน้ำแถบสามเหลี่ยมทองคำ ขณะที่กลุ่มต้านยังนิ่ง รอจังหวะขยับ ด้านชาวประมงรับกังวลกลัวปลาหาย ย้ำถ้าถึงขั้นระเบิดแก่งคงไม่ยอมแน่
วันนี้ (21 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือจาฟู่ 3 หนึ่งในกองเรือสำรวจร่องน้ำโขงขนาด 450 ตัน ของบริษัท CCCC Second Habor Consultant จำกัด จากมณฑลยูนนาน สป.จีน ได้ออกเดินทางจากท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 1 ซึ่งใช้เป็นจุดพักเรือ มุ่งหน้าทวนน้ำไปทางสามเหลี่ยมทองคำ จนสุดเขตแดนไทยระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร
โดยเรือลำดังกล่าวซึ่งมีแท่นเจาะชั้นดินกลางแม่น้ำโขง ได้วางอุปกรณ์บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ก่อนทำการตรวจหาความหนาแน่นของชั้นดิน และหิน เพื่อเก็บตัวอย่างไปตรวจสอบด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า คณะสำรวจประจำเรือจาฟู่ 3 จะมุ่งตรวจสอบชั้นดิน และหินที่มีความลึกไม่เกิน 10 เมตร ในจุดย่อยๆ ประมาณ 16 จุด ก่อนที่จะย้ายไปเรื่อยๆ ตลอดทั้งวัน ซึ่งบางจุดระบุว่าอาจใช้เวลากว่า 1 สัปดาห์
ขณะที่เรือฉีตง 9 ได้เดินทางออกมาคู่กัน และไปตรวจสอบร่องน้ำต่างๆ โดยเรือลำนี้มีเจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่าภูมิภาคเชียงราย และหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.) ประจำการไปด้วย เพื่อร่วมตรวจสอบการปฏิบัติการของคณะสำรวจจีนให้เป็นไปตามข้อตกลง
ส่วนเรือเฉินไท่ 198 ซึ่งเป็นเรือใหญ่อีกลำยังไม่ออกปฏิบัติการใดๆ ขณะที่เรือเล็กที่เหลือก็ได้แล่นไปมาเพื่อติดต่อประสานงานอย่างต่อเนื่อง
ด้านเครือข่ายภาคประชาชนที่เคลื่อนไหวต่อต้านการระเบิดเกาะแก่งในแม่น้ำโขงมาอย่างต่อเนื่อง ยังไม่ปรากฏความเคลื่อนไหว โดยมีรายงานว่า แกนนำเครือข่ายกำลังอยู่ระหว่างประชุม เพื่อนัดแนะการเคลื่อนไหวคัดค้านในน่านน้ำเขต อ.เชียงของ และ อ.เวียงแก่น ซึ่งมีเกาะแก่งอยู่จำนวนมากเป็นหลัก
นายคำ ยานะ อายุ 62 ปี ชาวบ้านห้วยเกี๋ยง ม.8 ต.เวียง อ.เชียงแสน กล่าวว่า ตนยึดอาชีพทำประมงในแม่น้ำโขงมานานกว่า 20 ปี รู้สึกกังวลใจต่อการสำรวจดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้คัดค้าน เพราะก็เห็นว่าเขามาสำรวจเท่านั้น
“แต่ถ้าถึงขั้นมีการระเบิดเกาะแก่ง หรือสร้างเขื่อน ชาวบ้านก็คงจะไม่ยอมอย่างแน่นอน เนื่องจากจะทำให้เกิดผลกระทบโดยเฉพาะเรื่องพันธุ์ปลาที่อาจจะตายมากช่วงที่มีการระเบิด และยังทำให้ปลาไม่มีแหล่งอาศัย ส่วนการไหลของน้ำคงจะเปลี่ยนแปลง และระดับการขึ้นลงของน้ำก็ไม่เหมือนเดิมอีกด้วย”