เชียงราย - “รมว.อาคม” ย้ำรัฐเดินหน้าพัฒนาระบบขนส่ง เพิ่มระบบรางคู่ทั่วประเทศ ฟันธงรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย เริ่มสร้างได้ปีหน้าชัวร์ ดีเดย์ชง ครม.ปรับทางรถไฟเข้าเชียงใหม่มิถุนาฯ นี้-ประกวดราคาตุลาฯ 60 พร้อมเร่งแบบไฮเวย์สายเชียงใหม่-ลำปาง-พะเยา เข้าเชียงราย ให้เสร็จปีนี้
วันนี้ (21 เม.ย.) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.กระทรวงคมนาคม ได้เปิดการเสวนาและนิทรรศการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแผนงาน โครงการ ผลการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคม ยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทยปี 2558-2565 และส่งเสริมพัฒนาความรู้ด้านการคมนาคมขนส่งและความปลอดภัย “Thailand Transport 2017 Better Connect,Better Life” ครั้งที่ 2 ที่ห้องยูโทเปีย โรงแรมเลอ เมอริเดียน เชียงราย รีสอร์ท อ.เมือง จ.เชียงราย โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชนและผู้สนในเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
โอกาสนี้ รมว.คมนาคมได้ขึ้นเวทีปาฐกถาพิเศษเรื่อง “The Northern Connect : ภาคเหนือ เตรียมรับอนาคต” ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะหลายโครงการล่าช้ามานาน ไม่มีการดำเนินการกว่า 10-20 ปี หรือบางโครงการเกือบ 60 ปี
นายอาคมระบุว่า กรณีการคมนาคมระบบรางนั้น ณ ขณะนี้ ทั่วประเทศมีความยาวรวม 4,043 กิโลเมตร เป็นรางเดี่ยว 3,685 กิโลเมตร หรือ 91.15% ของรางทั้งหมด และเป็นแบบรางคู่-ทางสาม 358 กิโลเมตร หรือแค่ 8.85% แต่มีแผนเพิ่มความยาวเป็น 4,716 กิโลเมตร โดยลดรางเดี่ยวให้เหลือ 1,186 กิโลเมตร หรือ 25.14% และเพิ่มรางคู่เป็น 3,530 กิโลเมตร หรือ 74.85% หรือเพิ่มขึ้นกว่า 673 กิโลเมตร
โดยในปี 2560 นี้มีแผนดำเนินการใน 2 โครงการ คือ สาย อ.เด่นชัย จ.แพร่-เชียงราย-เชียงของ และสาย อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น-สกลนคร-มุกดาหาร-นครพนม ส่วนโครงการที่ประกวดราคาไปแล้วมี 5 โครงการ และกำลังเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก 9 โครงการ ภายใต้เป้าหมายการให้บริการทั้งหมดในปี 2565
นายอาคมกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ภายในปี 2565 ยังมีเป้าหมายดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงจากกรุงเทพฯ จำนวน 4 เส้นทางระยะทาง 1,039 กิโลเมตร รางกว้าง 1.435 กิโลเมตรตามมาตรฐานโลก ทำความเร็วได้ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพิ่มเส้นทางมอเตอร์เวย์ สถานีขนส่งสินค้าและทางด่วน การพัฒนาท่าเรือ ส่วนใหญ่เป็นท่าเรือทางทะเล
ส่วนทางอากาศที่มีท่าอากาศยานพาณิชย์ 38 แห่ง และไม่ใช่พาณิชย์ 20 แห่ง พบว่าแน่นขนัด เพราะการทะลักเข้ามาของนักท่องเที่ยวชาวจีน จึงมีแผนพัฒนาขยายสถานที่เดิม เพื่อรองรับอยู่
รมว.คมนาคมกล่าวด้วยว่า กรณีของภาคเหนือนั้นมีระบบรางจำนวน 3 โครงการ เป็นระบบรางคู่ ที่ให้ความเร็วราว 120-130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งได้ทั้งความเร็วและปลอดภัย คุ้มค่าต่อการขนส่งสินค้า
ประกอบด้วย เส้นทางสายเด่นชัย-เชียงราย ที่อยู่ในแผนงานปี 2560, เส้นทางสายเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กิโลเมตร ผ่านแพร่ ลำปาง ลำพูน วงเงิน 59,924 ล้านบาท จะเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีเดือนมิถุนายน 60 นี้ และประกวดราคาในเดือน ตุลาคม 60 และสายปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์-เด่นชัย
สำหรับระบบถนนจะมีโครงการพัฒนาไฮเวย์สายเชียงใหม่-เชียงราย ระยะทาง 185 กิโลเมตร ผ่านลำปาง-พะเยา วงเงิน 100,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างออกแบบรายละเอียดให้แล้วเสร็จในปีนี้ นอกจากนี้ยังมีแผนสร้างถนนสาย อ.แม่สอด-ตาก ระยะทาง 80 กิโลเมตร วงเงิน 100,000 ล้านบาท
ส่วนด้านคมนาคมทางอากาศมีแผนพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหมมีแผนพัฒนาปี 2559-2568 ให้รับผู้โดยสารได้ปีละ 20 ล้านคนในปี 2569-2573 วงเงิน 11,000 ล้านบาท จากเดิมที่รองรับได้ 18 ล้านคน
“เส้นทางคมนาคมที่มีการพูดถึงกันมากคือ รถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย ซึ่งจะนำเสนอเข้าสู่คณะรัฐมนตรีในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ก็ถือเป็นการเริ่มต้นนับ 1 ใหม่ หลังจากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนการออกทีโออาร์ และประกวดราคา ขั้นตอนนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2560 นี้ และจะสามารถก่อสร้างได้ราวต้นปี 2561 เพื่อให้เปิดให้บริการได้ในปี 2565-2566 ต่อไป โดยเราจะใช้แผนเดิมและงบประมาณเดิมที่เคยระบุไว้ในแผนล่าสุด” นายอาคมกล่าว
สำหรับโครงการรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย มีการศึกษาครั้งแรกเมื่อปี 2503 หรือกว่า 57 ปีที่แล้ว การศึกษาโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ครั้งล่าสุดมีระยะทางรวม 323 กิโลเมตร ผ่าน 17 อำเภอใน จ.แพร่ จ.พะเยา เข้ามาทาง อ.ป่าแดด จ.เชียงราย โดยมีปลายทางที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ชายแดนไทย-สปป.ลาว มีทั้งหมด 26 สถานี วงเงินก่อสร้าง 76,980 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 48 เดือน