xs
xsm
sm
md
lg

ยธ.เมืองน้ำดำบุกรับร้องทุกข์ชายพิการถึงบ้าน หลังถูกเพื่อนบ้านกลั่นแกล้งจนหมดอาชีพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาฬสินธุ์ - ผอ.สำนักงานยุติธรรมกาฬสินธุ์ลงพื้นที่รับร้องทุกข์ด้วยตนเองกับนายธวัชชัย ดีจันทร์ ชายพิการขาด้วนและลูกเมีย 3 ชีวิต ที่ถูกข้าราชการบำนาญร้องศาลปกครองบุกรุกเขตทางหลวง พร้อมหาทางเยียวยาด้านการฟื้นฟูสภาพจิตใจ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความเป็นธรรม

จากกรณีนายธวัชชัย ดีจันทร์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 17 บ้านดอนอุดม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งสภาพร่างกายพิการ ขาด้านขวาตั้งแต่เหนือหัวเข่าลงมาขาดด้วน ระบุว่าครอบครัวตนที่อาศัยอยู่กัน 3 คนพ่อแม่ลูก ประกอบอาชีพซ่อมรถจักรยานยนต์และรับกุ้งปลาจำหน่ายพอมีรายได้ประทังชีวิต ได้รับความเดือดร้อน หลังถูก ด.ต.อุฤทธิ์ ภูโอบ อดีตข้าราชการบำนาญ (ตำรวจ) ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน ร้องเรียนไปถึงศาลปกครองว่าตนทำความเดือดร้อนให้ชุมชนหลายข้อหา

โดยเฉพาะข้อหาหนักบุกรุกเขตทางหลวง ซึ่งอาจจะถูกอำนาจรัฐบังคับให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ทำเป็นเพิงชั่วคราวกันแดดขายกุ้งขายปลาหาเลี้ยงครอบครัว ตามที่เสนอข่าวแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (20 เม.ย.) นายณรงค์ ขำเพชร ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติ จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะหัวหน้าสำนักงานยุติธรรรม จ.กาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางไปยังบ้านนายธวัชชัย สอบถามปัญหาและรับเรื่องราวร้องทุกข์ ขณะที่นายธวัชชัยพร้อมภรรยาได้เล่าเรื่องราวสะเทือนใจที่เกิดขึ้นด้วยน้ำตา และเปิดเผยถึงที่มาของการถูกร้องเรียนจนมีการสั่งให้รื้อร้าน

โดยเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ทำการรื้ออกแล้วบางส่วน นอกจากนี้ยังกังวลกับคดีความในข้อหาบุกรุกเขตทางหลวงที่เป็นข้อหาหนัก

โดยนายธวัชชัยกล่าวว่า ขณะนี้ครอบครัวของตนอยู่ในสภาพไม่แตกต่างจากคนสิ้นเนื้อประดาตัว ไม่มีกำลังใจจะหางานและต่อสู้หารายได้เลี้ยงครอบครัว มีความน้อยใจกับโชคชะตาเพราะเหมือนถูกกลั่นแกล้งและไม่ได้รับความยุติธรรมจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายธวัชชัยกล่าวว่า ไม่รู้จะดำเนินชีวิตไปอย่างไร ตอนเกิดมาก็ครบ 32 เมื่อมีงานทำก็เหมือนถูกกลั่นแกล้งจากโชคชะตา ตอนอายุ 35 ปีเป็นเจ้าหน้าที่ รปภ. ระหว่างที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปทำงานเกิดประสบอุบัติเหตุทางถนนถูกรถมินิบัสชนจนต้องพิการขาขาด ตอนนั้นเห็นใจคนขับรถมินิบัสก็ไม่ได้เรียกร้องค่าสินไหมใดๆ

แต่ด้วยความพยายามและดิ้นรนที่จะต่อสู้จากความจนเพราะยังมีครอบครัวที่ต้องดูแล กว่าจะทำใจได้และปรับสภาพร่างกายให้ชินกับการใช้ไม้ค้ำเดินขาเดียวนานหลายปีมาก

จนกระทั่งรับจ้างอยู่พื้นที่ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ มีผู้ใจบุญคอยช่วยเหลือผืนดินที่ครอบครอง 1 ไร่ 60 ตร.ว. เดิมเป็นของนายจ้างเก่าขายให้ในราคาถูกโดยหวังให้เป็นที่ทำกินด้วยความสงสาร เปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว และเริ่มขายปลานิล ขายกุ้งก้ามกราม แต่สุดท้ายก็ถูกกลั่นแกล้งจนเป็นเรื่องราวตามที่เกิดขึ้น

ตลอดระยะเวลา 5 ปีต้องอดทนต่อการกลั่นแกล้งหลายเรื่องราว ไม่รู้จะบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากใครแล้ว ตอนนี้ไม่อยากจะทำอะไรเลยเพราะไม่รู้จะทำอะไรต่อไปจะถูกกลั่นแกล้งอีกไหม สิ่งที่ทำได้คือไปวัดทำบุญเพื่อสงบจิตใจไม่ให้คิดมากไปกว่านี้

ขณะที่นายณรงค์ ขำเพชร ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติ จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะหัวหน้าสำนักงานยุติธรรรม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากที่ได้รับทราบเรื่องนายธวัชชัยถูกเพื่อนบ้านร้องไปถึงศาลปกครอง และเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงฯ กำลังจะทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่เป็นเพิงและอ่างขังกุ้งปลาที่นายธวัชชัยทำเป็นอาชีพเลี้ยงครอบครัว โดยได้ทราบเรื่องจากสื่อที่นำเสนอ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งทราบว่าถูกเพื่อนบ้านร้องเรียนมาตลอดระยะเวลา 5 ปี

กระทั่งเรื่องไปถึงศาลปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเทศบาลตำบลบัวบานเจ้าของพื้นที่โดยนิติกร และแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ ก็ได้เข้ามาแจ้งว่านายธวัชชัยได้บุกรุกจริง พร้อมทั้งให้ทำการรื้อถอนส่วนที่รุกล้ำแนวเขตทางหลวง

“จากการปฏิบัติของเทศบาลตำบลบัวบานโดยนิติกร และแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ดังกล่าว นายธวัชชัยจึงได้ร้องเรียนไปที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ ว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกกระทำโดยถูกอำนาจรัฐเลือกปฏิบัติ เพราะหากจะให้ทำการรื้อถอนหรือจัดระเบียบแนวเขตทางหลวงจริงก็ต้องทำเป็นมาตรฐานเดียวกันตลอดแนว เพราะโดยทั่วไปก็เห็นมีเพิงและป้ายขายของตลอดเส้นทาง และไม่ถูกเจ้าหน้าที่สั่งให้รื้อถอน” นายณรงค์กล่าว และว่า

แต่ที่บริเวณหน้าบ้านนายธวัชชัย ระยะประมาณ 30 เมตรกลับถูกกระทำคนเดียว โดยเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงฯ ได้ทำการปักหลักหมุดและเลือกปฏิบัติ จึงถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติและไม่ให้ความเป็นธรรมแก่นายธวัชชัย

อย่างไรก็ตาม หลังจากได้รับการร้องทุกข์กับนายธวัชชัยแล้ว เบื้องต้นได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือเทศบาลตำบลบัวบาน และแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ ได้ขยายระยะเวลาในการรื้อถอนออกไปเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่นายธวัชชัย พร้อมกันนี้ได้แจ้งให้ดำเนินการเป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่ออำนวยความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ และไกล่เกลี่ยข้อพิพาท สร้างความสุขให้ประชาชนตามนโยบายรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม หากนายธวัชชัยประสงค์ที่จะให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย หรือเยียวยาด้านจิตใจ สำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ ก็พร้อมที่จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น