ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ขับรถสี่ล้อแดงรับจ้างเชียงใหม่ ส่งตัวแทนยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่ ให้ดำเนินการกต่อกรมการขนส่งทางบกและขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ฐานความผิดมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณีปล่อยอูเบอร์ (Uber) และแกร็บคาร์ (Grab Car) วิ่งรับส่งผู้โดยสารในเชียงใหม่ โดยไม่บังคับใช้กฎหมายลงโทษอย่างเด็ดขาด โวยเป็นบริษัทต่างชาติเข้ามาแย่งอาชีพ
วันนี้ (20 เม.ย.) ที่ศาลปกครองเชียงใหม่ กลุ่มตัวแทนผู้ขับรถสี่ล้อแดงรับจ้างในตัวเมืองเชียงใหม่ นำโดยนายสมบัติ ศิริ เข้าคำร้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่ เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อกรมการขนส่งทางบก และสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานความผิดการละเว้นตามมาตรา 157 กรณีที่ไม่ดำเนินการตามกฎหมายกับรถอูเบอร์ (Uber) และ รถแกร็บคาร์ (Grab Car) ที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ทั้งที่ไม่ได้เป็นรถบริการสาธารณะและไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย
โดยติดต่อกันระหว่างคนขับและผู้โดยสารผ่านแอพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ขับขี่รถสี่ล้อแดงรับจ้าง และรถสาธารณะอื่นๆ ที่ถูกแย่งผู้โดยสารไป ขณะเดียวกัน ขอให้มีการหยุดให้บริการของรถอูเบอร์ (Uber) และ รถแกร็บ (Grab) ด้วยจนกว่าจะมีการดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
นายสมบัติเปิดเผยว่า ตัวเองพร้อมผู้ขับขี่รถสี่ล้อแดงรับจ้าง 15 คน เป็นตัวแทนของผู้ขับขี่รถสี่ล้อแดงรับจ้างในเชียงใหม่ที่มีประมาณ 2,500 คน และสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ เข้ายื่นหนังสือคำร้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่ในครั้งนี้ เพื่อฟ้องกรมการขนส่งทางบก และสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามความผิดมาตรา 157 จากการที่ไม่ดำเนินการตามกฎหมายกับรถอูเบอร์ (Uber) และรถแกร็บคาร์ (Grab Car) ที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่
การยื่นคำร้องนี้เป็นการรักษาสิทธิของประชาชนที่ประกอบอาชีพอย่างถูกต้อง เพราะรถสี่ล้อแดงและรถแท็กซี่ในประเทศมีจำนวนมาก เฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ผู้ขับรถสี่ล้อแดงประมาณ 2,500 คน และผู้ขับรถแท็กซี่อีกจำนวนหนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบจากการที่รถอูเบอร์ และแกร็บคาร์ มาวิ่งรับลูกค้า ทำให้รายได้ลดลง
ทั้งนี้ รถสี่ล้อแดงรับจ้างได้มีการปฏิบัติตามกฎหมายทุกอย่าง ซึ่งกฎหมายออกมาให้รถสี่ล้อแดงเก็บเงินค่าโดยสารได้คนละ 30 บาท โดยที่รถบางคันยังเก็บอัตราเท่าเดิมคือคนละ 20 บาท แต่เหตุการณ์ที่พบเจอคือ กลุ่มลูกค้าเมื่อเรียกรถสี่ล้อแดงก็จะบอกว่าราคานี้แพง จากนั้นก็จะไปเรียกอูเบอร์ หรือแกร็บคาร์ แทน เพราะเขาคิดในอัตราที่ถูกกว่า หากผู้โดยสารมา 3 คน จะเสียรวมแล้ว 90 บาท แต่อูเบอร์ หรือแกร็บคาร์ เสียเงินแค่ 40-50 บาท ทำให้ผู้โดยสารเลือกไปใช้บริการดังกล่าวแทน
รถดังกล่าวได้รับเงินเพิ่มจากการวิ่งทำรอบให้ได้มากตามเป้าหมายจากทางบริษัทที่เป็นต่างชาติด้วย ทำให้สามารถวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้ในราคาดังกล่าว
ขณะที่รถสี่ล้อแดงรับจ้างทำตามกฎหมายทุกอย่าง ทั้งการนำรถเข้าระบบขนส่งสาธารณะอย่างถูกต้อง,การอบรมความรู้มาตรฐานในการรับส่งผู้โดยสาร,การสอบใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะ และการทำรถให้ได้มาตรฐานตามขนส่ง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายและต้นทุนที่สูงกว่ามาก แต่กลับถูกรถยนต์ส่วนตัวหรือรถป้ายดำ ที่ใช้แอพพลิเคชั่นจากต่างประเทศมาแย่งลูกค้า ทำให้รายได้หดหาย ซึ่งปัจจุบันแต่ละวันมีเก็บค่าโดยสารได้ประมาณ 700-800 บาท แต่เมื่อหักค่าน้ำมันแล้วจะเหลือเพียง 100-200 บาท เท่านั้น เพื่อนำไปเลี้ยงดูครอบครัว
ดังนั้นจึงต้องการเรียกร้องสิทธิและความเป็นธรรมให้กับผู้ขับรถสี่ล้อแดงรับจ้างและรถแท็กซี่ พร้อมให้ผู้เกี่ยวข้อง ทั้งกรมการขนส่งทางบก และขนส่งจังหวัด ดำเนินการต่อรถอูเบอร์ และแกร็บคาร์ อย่างเด็ดขาด เพราะถือเป็นรถที่ผิดกฎหมายของกรมการขนส่งอยู่แล้ว
นอกจากนี้ นายสมบัติย้ำว่า บริษัทที่ใช้ชื่อว่า อูเบอร์ และแกร็บคาร์ เป็นบริษัทต่างประเทศ ได้เข้ามาทำมาหากินโดยเรียกผ่านแอปพลิเคชัน ถึงกฎหมายจะบอกว่าแอปพลิเคชันไม่ผิด แต่คนที่นำมาใช้ในทางที่ผิดหรือใช้แบบผิดๆ ต้องถือว่าผิดเหมือนกัน ซึ่งเห็นว่าบริษัทต่างประเทศนี้จงใจแย่งงานและทำลายอุตสาหกรรมแท็กซี่ไทย อีกทั้งเป็นการดำเนินกิจการที่ผิดกฎหมายและได้รับการต่อต้านในหลายประเทศทั่วโลก บ้างอาจเห็นว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ แต่ทำไมไม่ช่วยกันพัฒนาให้แท็กซี่ไทย หรือรถสาธารณะขนาดเล็กอย่างเช่นรถสี่ล้อแดงแทน
นอกจากนี้ มองว่าการที่ปล่อยให้นำรถยนต์ส่วนตัวมาวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้ เป็นการทำให้การจราจรยิ่งติดขัดกว่าเดิมด้วย ขณะเดียวกัน เห็นว่าขั้นตอนวิธีการจ่ายเงินค่าโดยสารของรถอูเบอร์ที่จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้นั้นเป็นการนำเงินตราออกนอกประเทศ เพราะอูเบอร์เป็นบริษัทต่างประเทศ เป็นการนำเงินรายได้ที่ควรจะเป็นของคนไทยออกนอกประเทศ และจ่ายกลับมาให้คนขับแท็กซี่ป้ายดำโดยไม่เสียภาษี และไม่จดทะเบียนบริษัทอย่างถูกต้องในไทยอีกด้วย มองว่าเป็นการดำเนินธุรกิจที่ผิดจริยธรรม
