จันทบุรี - ชาวบ้านเร่งทำฝายกระสอบทรายกั้นน้ำตกคลองนารายณ์ ที่เกิดสีขุ่นแดงจากการพังถล่ม และดินสไลด์ของดินภูเขาบนเขาสระบาป หวั่นจะส่งผลกระทบต่อน้ำในการอุปโภคบริโภค โดยหากไหลลงสู่คลองภักดีรำไพ และแม่น้ำจันทบุรี กระทบระบบนิเวศเสียหาย ปลาตาย
วันนี้ (20 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ติดตามความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุดินภูเขาพังถล่ม และเกิดดินสไลด์บนเขาสระบาป กินเนื้อที่กว่า 2 ไร่เศษ และทำให้ดินเลนได้ไหลมาปิดทับทางน้ำ และทำให้น้ำตกคลองนารายณ์ มีสีขุ่นแดง จนนำไปสู่ทางอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ที่เป็นหน่วยขึ้นตรงของน้ำตกคลองนารายณ์ ต้องมีการสั่งปิดน้ำตกชั่วคราว และห้ามให้นักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวในช่วงนี้อย่างเด็ดขาด
ล่าสุด น้ำตกที่มีสีขุ่นแดงนั้น ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ใน 14 หมู่บ้าน เริ่มได้รับผลกระทบจากน้ำที่มีสีขุ่นแดง และดินเลนที่ไหลลงมาจากเขาสระบาปทำให้น้ำที่จะนำไปใช้อุปโภคบริโภค ไม่สามารถที่จะนำมาใช้ดื่มกิน หรือรดน้ำสวนผลไม้ได้ ทำให้สวนผลไมของชาวบ้านที่กำลังให้ผลผลิตได้รับผลกระทบรากเน่าเสีย และบางส่วนต้นตายแล้ว
โดย นายมงคล โอสถเจริญ กำนันตำบลคลองนารายณ์ และชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบได้มีการนำกระสอบทรายมาทำฝายกั้นดินเลน เพื่อชะลอไม่ให้ดินเลนไหลลงไปสวนผลไม้ของชาวบ้าน รวมทั้งไหลลงคลองภักดีรำไพ และแม่น้ำจันทบุรี หากดินเลนเหล่านี้ไหลลงสู่คลอง และแม่น้ำจันทบุรี มากเข้าก็จะทำให้ระบบนิเวศเสีย ปลาตาย และชาวบ้านไม่สามารถที่จะนำน้ำขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้ ดังนั้น ชาวบ้านจึงได้ร่วมมือร่วมใจกันในการทำฝายกระสอบทรายเพื่อชะลอไม่ให้ดินเลนไหลลงสู่คลอง และแม่น้ำจันทบุรี รวมทั้งสวนผลไม้ของชาวบ้าน
ขณะนี้สถานการณ์น้ำตกคลองนารายณ์ ยังพบว่าน้ำยังคงมีสีขุ่นแดงอยู่ และมีดินเลนไหลลงมากับน้ำอย่างต่อเนื่อง โดย นายมงคล โอสถเจริญ กำนันตำบลคลองนารายณ์ เตรียมประสานขอรถดูดเลนจากป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี เข้ามาช่วยเหลือในการดูดเลนอีกทางหนึ่ง
ด้าน นายสนั่น มังคลัง ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า ตอนนี้ความเดือดร้อนจากน้ำที่มีสีขุ่นแดง ทางสวนของตนเองยังกระทบไม่มาก ทั้งหากน้ำที่มีสีขุ่นแดง และดินเลนที่ไหลเข้าสวนทุเรียนของตนเองก็จะทำให้ผลทุเรียนไม่โต และรากจะเน่า