ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ดังชั่วข้ามคืนแต่ก็ดับแค่ข้ามวัน “ไมโล คิวบ์” หรือไมโลก้อนที่ถูกปั่นกระแสความนิยมบนโลกออนไลน์ ล่าสุดสองหนุ่มสาวชาวขอนแก่นขึ้นโรงพักให้ปากคำเพิ่มเติมหลังถูกสาวอ้างมีพ่อเป็นตำรวจทำงานด่านสะเดาสามารถนำเข้าต้นทุนต่ำ โอนเงินจ่ายไปกว่า 1.6 แสนบาทกะขายทำกำไรต่อ สุดท้ายถูกตุ๋นปิดเฟซหนี
ฮือฮาบนโลกออนไลน์ได้ไม่นานก็เกิดปัญหาจนได้ กับธุรกิจขาย “ไมโล คิวบ์” หรือไมโลก้อน ผลิตภัณฑ์ประเภทขนมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเพียงชั่วข้ามคืน จากการปั่นกระแสในสังคมโซเชียล เมื่อนายหาญศึก แจพิทักษ์ อายุ 39 ปี และ นางสาวสุภาภรณ์ โคตรหนองปิง อายุ 26 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่นว่าถูกมิจฉาชีพหลอกขายไมโล คิวบ์ สูญเงินไปร่วม 167,900 บาท
โดยผู้เสียหายทั้งสองเล่าว่า เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 60 ที่ผ่านมาได้รับการแนะนำจากเพื่อนที่ขายของออนไลน์ด้วยกันว่า ขณะนี้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ คือไมโล คิวบ์ ขนมรูปร่างสี่เหลี่ยมเท่าลูกเต๋า เป็นไมโลก้อน กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก พร้อมกับแนะนำให้รู้จักกับคนขายส่ง ที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า ความทรงจำ รูปโปรไฟล์เป็นหญิงสาว
หลังจากนั้นได้มีการพูดคุยสอบถามกันทางเฟซบุ๊ก โดยหญิงสาวคนดังกล่าวบอกว่ามีพ่อเป็นตำรวจทำงานอยู่ด่านพรมแดนอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา สามารถนำผลิตภัณฑ์ไมโลคิวบ์ข้ามมาจากประเทศมาเลเซียได้ในราคาถูก ในที่สุดจึงตกลงสั่งซื้อมาขายต่อ โดยโพสต์ขายทางออนไลน์ จนมีลูกค้าสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมาก
นายหาญศึกเปิดเผยอีกว่า ตนได้โอนเงินเป็นค่าสินค้าเข้าบัญชีนายวัชรินทร์ จันทร์หอม บัญชีธนาคารกสิกรไทย จำนวน 8 ครั้ง เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 167,900 บาท ต่อมาวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะกำลังเดินทางกลับจากต่างจังหวัดเพื่อนได้ทักไลน์เข้ามาว่าคนที่ขายไมโลก้อนได้บล็อกเฟซบุ๊กกับคนสั่งซื้อจำนวนมากหลังจากโอนเงินเข้าไปแล้ว
จากนั้นตนก็ตรวจสอบและพบว่าก็ถูกบล็อกเฟซบุ๊กเช่นกัน และไม่สามารถติดต่อหญิงสาวรายนี้ได้อีก จึงมั่นใจว่าถูกหลอกจริง
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 เม.ย.) นายหาญศึก และ นางสาวสุภาภรณ์ ได้เข้าให้ปากคำต่อ พ.ต.ต.วัษณุ แสนคำ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมือง ขอนแก่น โดยมี พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์สุทธิ์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมสอบปากปากคำผู้เสียหายด้วย
ซึ่งผู้เสียหายได้นำหลักฐานเอกสารที่เป็นการพูดคุยผ่านโซเชียลมาเป็นหลักฐาน รวมทั้งเอกสารของธนาคารกสิกรไทย ที่มีชื่อนายวัชรินทร์ จันทร์หอม เจ้าของบัญชีมามอบให้ด้วย
นายหาญศึก ผู้เสียหาย เล่าเพิ่มเติมว่า จากการพูดคุยในกลุ่มพ่อค้าออนไลน์ด้วยกัน พบว่ามีผู้เสียหายอีกประมาณ 4 คนที่ถูกหลอกซื้อผลิตภัณฑ์ไมโลคิวบ์จากบุคคลเดียวกัน ซึ่งอยู่ในระหว่างการเตรียมหลักฐานเข้าแจ้งความตามสถานีตำรวจในพื้นที่ของผู้เสียหาย สำหรับตนสูญเงินไปจำนวน 167,900 บาทให้มิจฉาชีพรายนี้
นอกจากนี้ ตนยังได้รับการติดต่อจากผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ระบุว่าถูกนำรูปมาใช้เป็นรูปโปรไฟล์ในเฟซบุ๊กติดต่อซื้อขาย และได้แนะนำให้ตนไปแจ้งความ พร้อมเตือนผู้ที่จะซื้อขายผ่านโลกออนไลน์ จะต้องมีการตรวจสอบประวัติและที่อยู่ให้ชัดเจนเพื่อป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้โลกโซเชียลหลอกลวงต้มตุ๋น
“จึงได้เข้าแจ้งความต่อทางตำรวจไว้เป็นหลักฐานเพื่อจะได้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ส่วนเงินที่ลูกค้าโอนมาสั่งจองไมโลก้อนกับผมนั้นขณะนี้ได้ขายทองรูปพรรณ และของมีค่า และโอนคืนให้กับลูกค้าไปทั้งหมดแล้วเพื่อรักษาเครดิตไว้ก่อนเพราะผมมีอาชีพขายของบนโลกออนไลน์” นายหาญศึกกล่าว