สระแก้ว - ชาวบ้านตาหลังใน เข้าแจ้งความดำเนินคดี ยื่นร้องผู้ว่าราชการจังหวัด สอบโกงเงินออมวันละบาทกว่า 5.6 ล้านบาท หลังพบความไม่โปร่งใสชัดเจน
วันนี้ (20 เม.ย.) ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว จำนวนกว่า 70 คน พร้อมด้วย นายวรวุฒิ ทองชาติ ทนายความ และ ร.อ.ทองทศ มากสาคร ในฐานะรองประธานธรรมาภิบาลจังหวัดสระแก้ว ได้พาตัวแทนชาวบ้านซึ่งได้รับความเดือนร้อนจากโครงการกองทุนสวัสดิการชุมชนตาหลังใน หรือกองทุนเงินออมวันละบาท เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ที่ สภ.วังน้ำเย็น
เพื่อให้ดำเนินคดีต่อคณะกรรมการกองทุนฯ ฐานยักยอกทรัพย์ และฉ้อโกงเงินออมของชาวบ้านและเงินสมทบจากรัฐบาล รวมกว่า 5.6 ล้านบาท โดยพบว่าปัจจุบันมีเงินเหลือติดบัญชีเพียง 1,000 บาทเศษเท่านั้น โดยมี พ.ต.อ.พิษณุ เพ็งเดือน ผกก.สภ.วังน้ำเย็น คอยดูแลอำนวยความสะดวก พร้อมทั้งรับเรื่องด้วยตนเอง และมอบหมายให้ ร.ต.อ.ประพันธ์ พุฒมี ร้อยเวร รับแจ้งความจาก นางมาลัย ปาระบับ เป็นตัวแทนชาวบ้าน พร้อมทั้งจะเรียกสอบตัวแทนกองทุนทั้ง 18 หมู่บ้านหลังจากนี้ตามลำดับ
นางมาลัย ปาระบับ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.ตาหลังใน ตัวแทนชาวบ้านบอกว่า ชาวบ้านพบความไม่โปร่งใสในการบริหารจัดการเงินกองทุน ภายหลังจากมีการแก้ไขระเบียบโดยที่ชาวบ้านไม่รับรู้ และไม่สามารถใช้สวัสดิการตามที่ระบุไว้ในระเบียบ เช่น กรณีสมาชิกเสียชีวิต หรือลาออก ซึ่งหากไม่มีการใช้สวัสดิการจะได้รับเงินส่วนที่ออมคืนทั้งหมด แต่หากมีการใช้สวัสดิการจะได้รับคืนร้อยละ 90
โดยที่ผ่านมาเหมือนหลอกให้ชาวบ้านเข้ามาเป็นสมาชิก แล้วก็นำเงินไปใช้โดยที่ชาวบ้านไม่รู้ ขณะนี้ตัวแทนชาวบ้านแต่ละหมู่บ้าน 18 หมู่บ้าน ได้รวบรวมข้อมูลการใช้สวัสดิการ และตัวเลขการเก็บเงินส่งเข้ากองทุนทั้งหมดแล้ว พบว่า ข้อมูลแตกต่างจากที่มีการชี้แจงมาชัดเจน จึงเดินทางไปร้องทุกข์ต่อนายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล กระทรวงยุติธรรม และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้สอบสวนเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา
นางเสริมสวย วงศ์วิชา ตัวแทนชาวบ้าน บอกว่า ชาวบ้าน พร้อมด้วยทนายความ ต้องการแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีต่อคณะกรรมการกองทุนฯ หลังจากนั้น จะนำข้อมูลทั้งหมดเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระแก้ว ชาวบ้านทุกคนตอนนี้เดือดร้อนกันมาก รวมทั้งหมดกว่า 2,000 คน อยากได้เงินส่วนของเราที่ออมกันมาคืน บางครอบครัวเป็นสมาชิกกันทุกคน ถูกโกงไปหลายหมื่นบาท อยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดำเนินการตรวจสอบ และนำเงินมาคืนให้ชาวบ้านด้วย
ด้าน ร.อ.ทองทศ มากสาคร ในฐานะรองประธานธรรมาภิบาลจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า อยากให้กรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่าง เพราะกองทุนสวัสดิการนี้เกิดปัญหาหลายพื้นที่ ควรจะมีการตรวจสอบทั้งระบบว่า พื้นที่ไหนใช้เงินกองทุนนี้อย่างไร เนื่องจากรับทราบว่า หลายพื้่นที่กำลังจะร้องเรียนปัญหาลักษณะเดียวกันเข้ามาเพิ่มเติมอีก เนื่องจากปัจจุบันมีกองทุนสวัสดิการชุมชนทั่วประเทศ จำนวน 6,144 ตำบล เงินกองทุนรวมกว่า 10,000 ล้านบาท เงินทุนส่วนใหญ่เป็นเงินสมทบจากสมาชิกกองทุน ส่วนที่เหลือมาจากการสมทบจากรัฐบาลผ่านสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) รวมทั้งการสมทบจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูล และหนังสือร้องเรียน พบว่า ชาวบ้านนำข้อมูลใบแจ้งยอดบัญชีเงินฝาก ชื่อบัญชี กองทุนสวัสดิการ ต.ตาหลังใน ม.11 ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาวังน้ำเย็น ประเภทออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 278-2-59747-0 ซึ่งเป็น 1 ใน 2 ของบัญชีเงินฝากของกองทุนมายืนยันว่า มีการถอนเงินสดออกจากบัญชีไปเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2558 จำนวน 3 ครั้ง และวันที่ 24 มีนาคม 2559 จำนวน 1 ครั้ง รวมเงินที่ถอน จำนวน 1,155,726 บาท
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านยังต้องการเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ และดำเนินคดีอาญาต่อผู้ทุจริตนำเงินกองทุนฯ ไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว ต้องการเงินที่กองทุนฯ ไม่สามารถแสดงหลักฐานการจ่ายสวัสดิการกลับมาคืนให้แก่สมาชิกกองทุนฯ ทั้งหมด และต้องการให้มีหน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่ควบคุม และตรวจสอบการบริหารกองทุน และแนวทางในการบริหารกองทุนให้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้มากกว่านี้
นอกจากนั้น ศูนย์ประสานงาน สถานบันประชาสังคมและส่งเสริมธรรมาภิบาลจังหวัดสระแก้ว (สปธ.) ได้ทำหนังสือส่งถึงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระแก้ว เพื่อขอให้เปิดเผยข้อมูลงบประมาณ และผลการดำเนินโครงการกองทุนสวัสดิการชุมชน และโครงการจัดประชุมขับเคลื่อนงานสวัสดิการชุมชนจังหวัดสระแก้วด้วย