ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ชาวบ้านเอื้ออาทรสันกำแพงครวญเดือดร้อนหนัก น้ำในแม่น้ำที่ไหลผ่านหมู่บ้านกลายเป็นสีดำและส่งกลิ่นเน่าเหม็น คาดคนใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลงในนาข้าว เจอฝนชะล้างไหลลงแหล่งน้ำที่มีผักตบชวาขึ้นหนาแน่นขวางทางน้ำ ประกอบกับในหมู่บ้านมีการทิ้งน้ำเสียไม่ผ่านการบำบัดและลักลอบทิ้งขยะด้วย เตรียมประสานท้องถิ่นเข้าแก้ไขปัญหาเบื้องต้น พร้อมวางแผนระยะยาว
จากกรณีที่ผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านเอื้ออาทรสันกำแพง ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำพง จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับความเดือดร้อนจากการที่แม่น้ำโฮม ลำน้ำที่ไหลผ่านหมู่บ้าน กลายเป็นสีดำขุ่นและส่งกลิ่นเน่าเหม็น รวมทั้งมีปลาและสัตว์น้ำบางชนิดลอยตายด้วย วันนี้ (19 เม.ย.) จากการลงพื้นตรวจสอบพบว่าแม่น้ำโฮม ช่วงที่ไหลผ่านหมู่บ้านเอื้ออาทรสันกำแพงนั้น มีระยะทางประมาณ 500 เมตร สภาพน้ำในลำแม่น้ำเป็นสีดำขุ่น และส่งกลิ่นเน่าเหม็น
โดยผู้ที่อยู่อาศัยในหมู่บ้านบอกว่าหากเป็นช่วงที่ฝนตกน้ำจะยิ่งส่งกลิ่นเน่าเหม็นมากกว่าเดิม และมีสัตว์น้ำลอยตายเป็นจำนวนมากด้วย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงที่เป็นพาหะของโรคต่างๆ ด้วย จึงอยากร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
นายเอื้อน ทองหนัก อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้นตามที่ได้รับการร้องเรียนจากลูกบ้าน พบว่าปัญหาดังกล่าวจะเกิดขึ้นที่เฉพาะบริเวณแม่น้ำจุดที่ไหลผ่านหมู่บ้านเอื้ออาทรสันกำแพง ซึ่งมีระยะประมาณ 500 เมตร โดยจากการตรวจสอบพบว่าบริเวณดังกล่าวมีการปล่อยน้ำจากนาข้าวลงสู่แม่น้ำ ดังนั้นจึงคาดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากการที่เกษตรกรพ่นยาฆ่าแมลงและสารเคมีต่างๆ ในนา เมื่อฝนตกลงมาทำให้น้ำฝนชะล้างสารเคมีดังกล่าวไหลลงแม่น้ำ นอกจากนี้พบว่าบริเวณดังกล่าวมีผักตบชวาขึ้นปกคลุมหนาแน่นเต็มแม่น้ำ ขวางกั้นการระบายน้ำ จนน้ำไม่สามารถไหลเวียนได้ ทำให้เกิดน้ำเน่าเสีย และกระทบต่อสัตว์น้ำที่ทยอยตายไปเรื่อยๆ
ขณะเดียวกัน เนื่องจากหมู่บ้านเอื้ออาทรสันกำแพงเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีบ้านเรือนกว่า 1,800 หลังคาเรือน มีการใช้น้ำและปล่อยน้ำเสียลงสู่แม่น้ำโดยขาดการบำบัด รวมทั้งมีการลักลอบทิ้งขยะและสิ่งปฏิกูลต่างๆ ลงสู่แม่น้ำด้วยจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำเน่าเสียดังกล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นนั้นได้มีการประสานงานกับทางเทศบาลเมืองต้นเปา เพื่อให้เข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว หลังจากนี้จะได้มีการร่วมกันกำจัดผักตบชวาเพื่อเปิดทางระบายน้ำ ตลอดจนจะได้มีการผันน้ำดีเข้ามาเพื่อเจือจางและผลักดันน้ำเสีย คาดว่าน่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้ในระดับหนึ่ง ส่วนการป้องกันแก้ไขปัญหาระยะยาว จะต้องมีการหารือทำความเข้าใจและวางแผนร่วมกันต่อไป