ชัยภูมิ - แก๊งมอดไม้แสบเข้าลักลอบตัดไม้พะยูงในป่าอุทยานฯ ตาดโตน-ป่าสงวนภูแลนคา ชัยภูมิช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเข้าตรวจสอบ พบตัดอื้อกว่า 60 ต้น ขณะกลุ่มคนร้ายไหวตัวหลบหนีก่อนเจ้าหน้าที่เข้าถึง เผยลำเลียงออกจากป่าไปแล้วบางส่วน ตรวจยึดได้ 30 ท่อน/ต้น ส่งเด้งด่วนยกชุดเจ้าหน้าที่ด่านตรวจออกจากพื้นที่ พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง
วันนี้ (18 เม.ย.) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตาดโตน สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้เขตป่าสงวนแห่งชาติภูแลนคา พร้อมกำลังทหาร ผู้นำชุมชน กว่า 100 นาย เข้าปิดล้อมพื้นที่ภูโค้ง บริเวณบ้านดงพอง หมู่ที่ 5 ต.นาหนองทุ่ม อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ หลังได้รับรายงานว่ามีขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงเข้ามาลำเลียงไม้พะยูงออกจากพื้นที่ หลังลักลอบตัดและนำมาพักไว้บนป่าภูโค้งในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์
เจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังเข้าซุ่มล้อมจับกุม แต่คนร้ายไหวตัวหลบหนีไปได้ก่อนกำลังเจ้าหน้าที่จะเดินทางเข้าไปถึง พบเพียงของกลางไม้พะยูงจำนวนมาก ตรวจสอบเบื้องต้นมีจำนวน 23 ท่อน/ต้น และคาดว่ามีไม้พะยูงส่วนหนึ่งถูกขนย้ายออกไปแล้วกว่า 30 ท่อน/ต้น
นายนพวงศ์ พฤษชาติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาดโตน เปิดเผยว่า ครั้งนี้ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าสงวนแห่งชาติภูแลนคาลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่ามีการลักลอบเข้ามาลำเลียงไม้พะยูงที่กลุ่มตัดไม้พะยูงลักลอบตัดไว้ในพื้นที่ จำนวนมากกว่า 60 ท่อน/ต้น ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 40-80 เซนติเมตร ยาวตั้งแต่ 2.50 เมตรขึ้นไป ออกจากพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติภูแลนคาและเขตรอยต่ออุทยานแห่งชาติตาดโตน คาดว่าคนร้ายกลุ่มนี้เป็นคนในพื้นที่ที่รู้เส้นทางเป็นอย่างดีสามารถหลบหนีออกจากพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและทิ้งของกลางไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำไม้ของกลางไปเก็บรักษาไว้เป็นหลักฐานและเร่งสืบสวนขยายผลไปให้ถึงผู้กระทำผิดเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วต่อไป
แก๊งลักลอบตัดไม้พะยูงกลุ่มนี้คาดว่าดำเนินการกันเป็นขบวนการใหญ่มีเครือข่ายกว้างขวาง รวมทั้งมีคนมีสีทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ร่วมมือกับกลุ่มนายทุนว่าจ้างให้ชาวบ้านทำการลักลอบตัดไม้พะยูงที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในพื้นที่และให้ทยอยขนย้ายออกมาจากป่าเพื่อนำไม้ส่งไปยังท่าเรือ จังหวัดชายแดนและลำเลียงข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนส่งไปขายต่อยังประเทศจีน เนื่องจากไม้พะยูงเหล่านี้เป็นที่ต้องการอย่างมากและในปัจจุบันแถบจังหวัดภาคอีสานเริ่มหาได้ยาก อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจตราพบการกระทำผิดบ่อยครั้ง แต่ผู้ต้องหามักไหวตัวหลบหนีไปได้เกือบทุกครั้ง
นอกจากนี้ ทางอุทยานฯ ยังได้มีคำสั่งย้ายชุดเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจจำนวนหนึ่งออกนอกพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากไม่รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้กำชับเจ้าหน้าที่ในสังกัดให้ตรวจตราเข้มงวดกวดขันในการดูแลพื้นที่มากยิ่งขึ้นและมีมาตรการเด็ดขาดมากกว่านี้ เพื่อช่วยกันสกัดการเข้าไปลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่ป่าที่รับผิดชอบ