ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “เครือข่ายตามรอยในหลวง” ระดมพลังจิตอาสาเชียงใหม่ นัดรวมตัว 12 พ.ค. 60 ที่น้ำตกมณฑาธาร ร่วมขุดลอกตะกอนทรายและซ่อมแซมฝายชะลอน้ำห้วยแก้ว คืนความชุ่มชื้นให้แก่ผืนป่าดอยสุเทพ โดยทำต่อเนื่องเป็นปีที่สอง
นายพันธวัสย์ กรรณกุลสุนทร ประธานเครือข่ายตามรอยในหลวง เปิดเผยว่า จากการที่เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 60 ตัวแทนเครือข่ายตามรอยในหลวง และจิตอาสาจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้ร่วมกันเดินสำรวจสภาพพื้นที่และลำน้ำห้วยแก้ว ที่ไหลลงมาจากยอดดอยสุเทพ ช่วงที่อยู่เหนือน้ำตกมณฑาธารขึ้นไปถึงน้ำตกไทรย้อย ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร
เพื่อเก็บข้อมูลนำไปวางแผนเตรียมพร้อมในการดำเนินกิจกรรมตามโครงการฟื้นฝายตามรอยในหลวง ประจำปี 2560 ที่จะทำการขุดลอกตะกอนทรายที่ทับถมและซ่อมแซมฝายต่างๆ ที่อยู่ในลำน้ำห้วยแก้ว ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ที่ไหลจากยอดดอยสุเทพลงสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ หลังจากที่ในปี 2559 ได้ดำเนินการไปแล้วครั้งหนึ่งเป็นปีแรก และได้ผลเป็นที่น่าพอใจในการช่วยชะลอกักเก็บน้ำและคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผืนป่า
ขณะนี้คณะกรรมการที่ร่วมกันจัดกิจกรรมในครั้งนี้ได้วางแผนงานและเตรียมความพร้อมในการดำเนินการขุดลอกตะกอนทรายที่ทับถมและซ่อมแซมฝายในลำน้ำห้วยแก้วที่บริเวณน้ำตกไทรย้อยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งกำหนดที่จะดำเนินการในวันที่ 12 พ.ค. 60 โดยจะมีการระดมกลุ่มจิตอาสาในจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกันทำการขุดลอกตะกอนทรายและซ่อมแซมฝายบริเวณน้ำตกไทรย้อย นัดพบและรวมตัวกันเวลา 08.00 น.ที่น้ำตกมณฑาธารในวันดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นตามแผนกำหนดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันเดียว เนื่องจากจุดที่จะดำเนินการนั้นเป็นจุดที่เดินทางเข้าถึงยากเพราะเป็นทางสูงชันขึ้นทางด้านหลังน้ำตกมณฑาธาร ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาเดินเท้าเข้าถึงพื้นที่ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
สำหรับการดำเนินการในครั้งนี้เชื่อมั่นว่าจะยังคงได้รับความร่วมแรงร่วมใจเป็นอย่างดีเช่นเดิมจากกลุ่มจิตอาสา ทั้งประชาชน นักเรียน และนักศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ ในการดำเนินการขุดลอกตะกอนทรายและซ่อมแซมฝายบริเวณน้ำตกไทรย้อยให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายอย่างแน่นอน หลังจากที่ในปีที่ผ่านมามีผู้เข้าร่วมกิจกรรมรวมกว่า 3,000 คน จนทำการขุดลอกฝายที่อยู่ใต้น้ำตกมณฑาธารลงไปรวมทั้งสิ้น 40 ฝาย
โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ หากมีจำนวนผู้เข้าร่วมมากเพียงพอจะมีการขุดลอกและซ่อมแซมฝายเพิ่มเติมในจุดอื่นๆ ที่ได้ดำเนินการไปเมื่อปีที่แล้วด้วย ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าปีนี้ปริมาณน้ำในลำห้วยเพิ่มขึ้น และยังคงมีน้ำไหลต่อเนื่องแม้ในช่วงฤดูแล้งของปีนี้ เนื่องจากฝายที่ทำการขุดลอกตะกอนทรายออกไปแล้วสามารถกักเก็บน้ำได้มากขึ้นและทำให้เกิดความชุ่มชื้นในพื้นที่เพิ่มมากขึ้นด้วย เป็นผลดีต่อการฟื้นตัวของสภาพป่า และต้นไม้ รวมทั้งระบบนิเวศของดอยสุเทพ