ศรีสะเกษ - ผู้การสั่งล่ากลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย 2 หนุ่มสาวอีก 5 คนที่หลบหนี จับกุมได้แล้ว 2 เผยทั้งสองฝ่ายมีปากเสียงเรื่องใช้ถนนขณะเล่นน้ำสงกรานต์ถึงขั้นอีกฝ่ายยิงปืนขู่ขึ้นฟ้า ด้านเหยื่อสหบาทาเจอแจ็กพอตตรวจพบยาบ้าในรถเกือบ 30 เม็ด ทั้งมีประวัติเคยถูกจับคดียาเสพติด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ได้มีการแชร์ภาพของผู้ที่ใช้นามว่า อธิสันต์ ตันติไพจิตร ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กและไลน์ว่า กันทรลักษ์ติดอันดับเมืองน่าอยู่อันดับที่ 9 ของประเทศไทย แต่จะน่าอยู่มากกว่านี้ถ้าลากคอไอ้สารเลวพวกนี้เข้าคุกให้หมด พร้อมกับโพสต์ภาพคลิปเหตุการณ์ที่มีชายวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งจำนวนประมาณ 7 คน พากันรุมทำร้ายชกเตะต่อยชายหญิง 2 คนที่ขับขี่รถเก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว
โดยเหตุเกิดที่บริเวณด้านหลังตลาดเม่งอุย ต.น้ำอ้อม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งในภาพมีกลุ่มวัยรุ่นได้พากันรุมชกทำร้ายร่างกายผู้ชายคนหนึ่งผมสีทอง ส่วนผู้หญิงอีกคนหนึ่งสวมเสื้อสีแดงพยายามที่จะเข้าไปช่วยเหลือชายที่มาด้วยกันไม่ให้ถูกทำร้าย แต่ว่าไม่สามารถที่จะช่วยได้ และได้วิ่งหนีเข้าไปในรถ และมีชายคนหนึ่งไม่สวมเสื้อได้วิ่งตามเข้าไปกระชากเอาผู้หญิงเสื้อแดงออกมาจากรถกระเด็นไปด้านข้าง
จากนั้นได้ช่วยกันรุมทำร้ายทั้งสองคน ขณะที่ผู้หญิงเสื้อแดงกำลังนั่งคุกเข่าดูอาการของเพื่อนชายที่มาด้วยกันอยู่นั้น กลับถูกชายคนหนึ่งไม่สวมเสื้อใช้เท้าเตะเข้าไปที่ใบหน้าอย่างแรงจนทำให้ฟุบลงไปกองกับพื้น ท่ามกลางเสียงร้องตะโกนของชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ให้หยุดทำร้ายทั้งสองคน ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (16 เม.ย.) พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนได้ดูคลิปภาพเหตุการณ์นี้แล้ว เห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวกฎหมายเป็นอย่างยิ่ง และได้สั่งการกำชับไปยัง พ.ต.อ.ชยากร เทศะบำรุง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกันทรลักษ์ ให้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยด่วนที่สุด
โดยขณะนี้สามารถจับกุมคนร้ายได้ 2 คน คือ นายเอ อายุ 18 ปี (นามสมมติ) และนายบี อายุ 19 ปี (นามสมมติ) ซึ่งทั้ง 2 คนได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับพวกพากันรุมทำร้ายร่างกายผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนจริง คือ นายคมกริช แสงกอง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 210 ม.15 ต.ขนุน อ.กันทรลักษ์ และ น.ส.ปิยวรรณ สามสี อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/1 บ้านหนองหญ้าลาด ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ โดยใช้มือและเท้ารุมชกต่อย ไม่ได้ใช้อาวุธแต่อย่างใด
พล.ต.ต.สุรเดชกล่าวต่อไปว่า สำหรับสาเหตุของการรุมทำร้ายร่างกายกันในครั้งนี้ เนื่องจากว่านายคมกริซ กับเพื่อนสาวได้ขับรถคันที่เกิดเหตุเป็นรถเก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว หมายเลขทะเบียน กม 7207 อุบลราชธานี เข้าไปบริเวณด้านหลังตลาดเม่งอุย อ.กันทรลักษ์ บริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นถนนสายรอง เนื่องจากว่าถนนสายหลักรถติดมาก ขณะนั้นมีกลุ่มของผู้ต้องหาพากันเล่นน้ำสงกรานต์กันอยู่ และได้มีการพูดจากระทบกระทั่งกันทำให้นายคมกริชเกิดความโกรธ จึงได้นำเอาอาวุธปืนขนาด .38 ออกมายิงขู่ขึ้นฟ้าจำนวน 1 นัด
กลุ่มผู้ต้องหาจึงได้พากันเข้าไปรุมทำร้ายร่างกายของนายคมกริชทำให้ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ขณะนี้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ส่วน น.ส.ปิยวรรณที่เข้าไปช่วยนายคมกริชได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
พล.ต.ต.สุรเดชยังกล่าวด้วยว่า จากการที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นภายในรถของนายคมกริช พบอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และยาบ้าจำนวน 28 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในรถด้วย ซึ่งจะต้องรอสอบปากคำนายคมกริชก่อนจึงจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สำหรับนายคมกริชเคยมีประวัติถูกจับกุมข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติดเมื่อประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา
โดยคดีนี้ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.หัสพงศ์ เติมศิริตังคโณบล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ให้เข้าไปควบคุมดูแลคดีนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นการให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ต่อไป
