สุรินทร์ - เศร้ารับวันมหาสงกรานต์ เกิดเหตุไฟไหม้กุฏิขนาดใหญ่วัดไพรปันลา ซองงานบุญผ้าป่ากว่า 2 แสนบาท และสิ่งของจัดสอยดาวชิงรางวัลวอดเหลือแต่ซาก ทั้งพระ และชาวบ้านเศร้าหวังนำเงินเป็นทุนสร้างโบสถ์ของวัดที่ยังขาดแคลน
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 17.35 น.วานนี้ (12 เม.ย.) ร.ต.อ.ศักดิ์เทพ รุจิยาปนนท์ สารวัตรสืบสวนสอบสวนเวร สภ.เทนมีย์ ต.เทนมีย์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหมกุฏิไม้ขนาดใหญ่ 9 ห้อง ใต้ถุนสูง ภายในวัดไพรปันลา ม.13 ต.สำโรง อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงประสานรถดับเพลิงจาก อบต.สำโรง และ อบต.เทนมีย์ รุดไปยังที่เกิดเหตุเพื่อดับเพลิงที่กำลังลุกโหมไหม้อย่างรุนแรง
แต่ไม่สามารถควบเพลิงได้ทัน ทำให้กุฏิไม้วอดเสียหายไปทั้งหลัง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ต้องใช้เวลาประกว่า 40 นาที เพลิงจึงสงบ
ตรวจสอบทรัพย์สินภายในกุฏิทั้ง 9 ห้อง พบว่า อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า สบง จีวร เครื่องอัฐบริขารของพระสงฆ์ และสามเณร เงินในซองผ้าป่าที่ยังไม่ได้แกะ และตู้หยอดเงินบริจาคทำบุญของวัดจำนวน 6 ตู้ คาดว่าจะมีเงินกว่า 2 แสนบาท ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด
นอกจากนี้ ยังมีตู้เย็น ทีวี พัดลม กระติกน้ำร้อน เครื่องใช้ไฟฟ้า รถจักรยาน สมุดหนังสือ ดินสอปากกา และอีกหลายรายการ ซึ่งเป็นสิ่งของที่ประชาชนบริจาคมาเพื่อเตรียมไว้เป็นของรางวัลเพื่อจัดกิจกรรมสอยดาวชิงรางวัล ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 15 เม.ย.60 นี้ ก็ไหม้เสียหายทั้งหมดเช่นกัน
เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียใจให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ ต.สำโรง เป็นอย่างยิ่ง เพราะเงินทำบุญผ้าป่า และสิ่งของทั้งหมดดังกล่าวเป็นสิ่งที่ชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจกันด้วยความบริสุทธิ์ใจและตามกำลังศรัทธา บริจาคมาเพื่อนำเงินทำบุญผ้าป่าสามัคคีที่จัดขึ้นทุกๆ ปี ไปสร้างโบสถ์ และปฏิสังขรณ์ภายในวัด ซึ่งเป็นศูนย์รวม และยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านร่วมกัน
เพราะวัดดังกล่าวยังไม่มีโบสถ์ และยังขาดแคลนเงินทุนปฏิสังขรณ์ต่างๆ อีกมาก นอกจากนี้แล้วยังมีเต็นท์หมู่บ้านขนาดใหญ่ที่ยืมมากางใกล้กับกุฏิถูกเพลิงไหม้เสียหายไป 4 หลังอีกด้วย แต่โชคยังดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่า น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานสุรินทร์ เข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง
พระจำลอง อุทาโณ อายุ 64 ปี พระลูกวัดไพรปันลา กล่าวว่า ระหว่างเกิดเหตุตนเห็นควันไฟและเพลิงพวยพุ่งบริเวณกุฏิห้องที่ 1 จากนั้นจึงตะโกนเรียกให้พระสงฆ์สามเณร และชาวบ้านที่มาช่วยเตรียมจัดงานต่ออายุหลวงพ่อเอือบ อิงควิดร อายุ 79 ปี เจ้าอาวาสวัดไพรปันลา และงานผ้าป่าสามัคคี ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-16 เม.ย.60 นี้
แต่ไม่สามารถช่วยกันดับไฟได้ทัน ก่อนที่ไฟจะลุกไหม้อย่างรุนแรงจนไม่สามารถควบคุมได้ดังกล่าว และเพลิงได้ไหม้อย่างรวดเร็วมาก ตนคว้าได้แต่เพียงย่ามออกมาได้เพียงถุงเดียวเท่านั้นส่วนทรัพย์สิน และสบงจีวรต่างๆ ถูกไฟไหม้หมด
ด้าน นายวัถชนะ สมานสวน อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้านแสลงพันธ์ ต.สำโรง กล่าวว่า ชาวบ้าน ต.สำโรง เพิ่งอัญเชิญพระพุทธชินราช ที่หล่อจากทองเหลือง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นกุฏิ ออกไปประดิษฐานที่ศาลาการเปรียญแห่งใหม่ที่อยู่ไม่ไกลกันนัก ก่อนหน้าที่จะเกิดไฟไหม้เพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น
ตนคิดว่าเป็นสิ่งน่าอัศจรรย์ และศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปที่ดลบันดาลให้ชาวบ้านอัญเชิญออกไปได้ก่อนที่จะเกิดเหตุเพลิงไหม้ ไม่เช่นนั้นพระพุทธรูปอาจจะถูกเพลิงไหม้เสียหายไปด้วย
อย่างไรก็ตาม หากผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือวัด สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่เบอร์โทรศัพท์ของตนเองที่หมายเลข 08-7376-1599