นครพนม-ทหาร-ตำรวจจู่โจมตรวจค้นเรือนจำกลางนครพนมพบสิ่งของต้องห้าม “ช้อนสแตนเลส”ในแดนขังชาย ยอมรับมีเล็ดลอดประจำหวั่นดัดแปลงใช้เป็นอาวุธทำร้ายกัน ขณะที่มือถือหรือสิ่งเสพติดตรวจไม่พบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(12 เม.ย.) นายประทีป ฤทธิกุล รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำกำลังเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย ทหารมณฑลทหารบก 210( มทบ.ฯ) ตำรวจภูธรนครพนม ตชด.235 ตชด. 236 กองร้อย อ.ส. หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง(นรข.) และเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางนครพนม สนธิกำลังเข้าตรวจค้นจู่โจมแดนผู้ต้องขังชายทั้งแดน 1-3 และแดนหญิง
ขณะที่ผู้ต้องขังทั้งหมดแบ่งเป็นชาย 2,783 คน หญิง 495 คน รวมทั้งสิ้น 3,378 คน ยังอยู่ในเรือนนอน
ซึ่งการจู่โจมตรวจค้นครั้งนี้ ดำเนินการตามนโยบายป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พร้อมค้นหาโทรศัพท์มือถือในเรือนจำของกรมราชทัณฑ์ ให้ทุกเรือนจำฯสนธิกำลังหน่วยงานภายนอก ตรวจค้นจู่โจมเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช.) ในการป้องกันและปราบปราม มิให้มีโทรศัพท์มือถือ ยาเสพติด อีกทั้งสิ่งต้องห้ามหรือสิ่งผิดกฎหมาย อยู่ภายในเรือนจำโดยเด็ดขาด
ผลการลุยค้นครั้งนี้ พบช้อนสแตนเลสจำนวนหนึ่งอยู่ในแดนชายทั้ง 3 แดน ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามในเรือนจำ เนื่องจากผู้ต้องขังอาจนำไปฝนด้ามให้คมเหมือนมีด สามารถใช้เป็นอาวุธทำร้ายกันได้ ทางเรือนจำจึงห้ามช้อนลักษณะนี้เข้าไปข้างใน แต่ก็ยังมีเล็ดลอดอยู่เสมอ นอกนั้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย สิ่งต้องห้าม หรือโทรศัพท์มือถือใดๆ
ภายหลังจากตรวจค้นทุกแดนจนครบ นายประทีป ได้เปิดเผยว่า การจู่โจมครั้งนี้ถือว่าประสบผลสำเร็จ เพราะทางผู้บังคับบัญชาเน้นเรื่องโทรศัพท์มือถือ ซึ่งผู้ต้องขังต้องการมาก เพื่อติดต่อกับบุคคลภายนอก หรือใช้ในการสั่งยาเสพติดเหมือนที่เป็นข่าวครึกโครมมาแล้ว และค้นหาสิ่งเสพติดต่างๆในเรือนจำ ที่ซุกซ่อนตามซอกหลืบบริเวณแดนของผู้ต้องขัง
ประกอบกับทางเรือนจำฯนครพนม เข้มงวดกวดขันตลอดเวลา ทำให้นักโทษไม่กล้านำสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาซุกซ่อน ที่ผ่านมามีนักโทษชายแอบนำยาบ้าเข้ามา ก็ไม่เล็ดลอดสายตาเจ้าหน้าที่ไปได้ ตอนนี้ถูกจับขังเดี่ยวพร้อมถูกศาลจังหวัดนครพนมเพิ่มโทษหนักกว่าเดิม