xs
xsm
sm
md
lg

BPH สานนโยบายรัฐ “เจ็บป่วยฉุกเฉิน รักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา รับลูกรัฐบาลพร้อมสานต่อโครงการ “เจ็บป่วยฉุกเฉิน รักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิ” เสริมกำลังเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินช่วยเหลือผู้ป่วยลดอัตราการตาย

นพ.สีหราช โลหชิตรานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา กล่าวถึงนโยบายของทางรัฐบาลที่ได้ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตเข้ารับการรักษาโดยไม่มีค่าใช้จ่ายฟรี 72 ชั่วโมงแรก ตามโครงการ “เจ็บป่วยฉุกเฉิน รักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิ” โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้บูรณาการการทำงานกับสถานพยาบาลทั่วประเทศ ดำเนินการรับผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต หรือ บุคคลที่ได้รับบาดเจ็บ หรือมีอาการป่วยกะทันหันที่มีภาวะคุกคามต่อชีวิต

โดยกำหนดกลุ่มอาการรวม 6 ประเภท คือ 1.หัวใจหยุดเต้น ไม่หายใจ ไม่ตอบสนองต่อการเรียกหรือกระตุ้น ไม่มีชีพจร จำเป็นต้องได้รับการกู้ชีพทันที 2.การรับรู้ สติเปลี่ยนไป บอกเวลา สถานที่ คนที่คุ้นเคยผิดอย่างเฉียบพลัน 3.ระบบหายใจมีอาการดังนี้ ไม่สามารถหายใจได้ปกติ หายใจเร็ว แรง และลึก หายใจมีเสียงดังผิดปกติ พูดได้แค่สั้นๆ หรือร้องไม่ออก ออกเสียงไม่ได้ สำลักอุดทางเดินหายใจกับมีอาการเขียวคล้ำ 4.ระบบไหลเวียนเลือดวิกฤตอย่างน้อย 2 ข้อ คือ ตัวเย็นและซีด เหงื่อแตกจนท่วมตัว หมดสติชั่ววูบ หรือวูบเมื่อลุกยืนขึ้น 5.อวัยวะฉีกขาด เสียเลือดมาก เสี่ยงต่อการพิการ และ 6.อาการอื่นๆ ที่มีภาวะเสี่ยงต่อชีวิตสูง เช่น เจ็บหน้าอกรุนแรง แขนขาอ่อนแรงทันทีทันใด หรือกำลังชักขณะแรกรับที่จุดคัดแยก

ในส่วนของโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ถือว่าได้เตรียมความพร้อมสานรับนโยบายดังกล่าวของทางรัฐบาลเป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของบุคลากร และอุปกรณ์เวชภัณฑ์ ซึ่งหากพบผู้ป่วยที่เข้าข่ายดังกล่าวจะพิจารราดูกลุ่มอาการว่าเข้าข่ายหรือไม่อย่างไร ก่อนมีการประเมินอาการจากแพทย์แล้วรับเข้าสู่ระบบการดูแลรักษา ซึ่งจากเดิมกำลังเจ้าหน้าที่ถือว่ามีความพร้อม และเพียงพออยู่แล้ว และจากนโยบายดังกล่าวทำให้มีการเพิ่มเติมในส่วนของการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินรองรับผู้ป่วยก่อนทำการรักษาจนปลอดภัย จากนั้นจะได้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยใช้สิทธิในการรักษาตามลำดับ

ในเรื่องของค่าใช้จ่ายนั้นรัฐบาลเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ โดยมีการเจรจาต่อรองค่ารักษาพยาบาลกับ 3 กองทุน รวมถึงภาคเอกชน เพื่อให้ผู้ป่วยฉุกเฉินในภาวะวิกฤตได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที ซึ่งเป็นการลดอัตราการเสียชีวิตให้แก่ประชาชนคนไทยต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น