ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - พบ “นกแขวก” นับพันตัวยกฝูงทำรังเรียงรายบนยอดไม้ในสวนสัตว์เชียงใหม่ ทั้งจับคู่ผสมพันธุ์ วางไข่ ฟักไข่ และมีลูกนกเกิดใหม่อีกจำนวนมาก คาดปักหลักตั้งถิ่นฐานเนื่องจากเป็นแหล่งที่มีความอุดมสมบูรณ์ สงบ และปลอดภัย เชิญชวนผู้สนใจเข้าชื่นชมช่วงเทศกาลสงกรานต์
วันนี้ (10 เม.ย. 60) นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่บริเวณวัดกู่ดินขาว ในสวนสัตว์เชียงใหม่ พบมีนกแขวกนับพันตัว อพยพมาทำรังตั้งถิ่นฐานอยู่นานกว่าเดือนแล้ว มีการผสมพันธุ์ วางไข่ ฟักไข่ และมีลูกนกเกิดใหม่เป็นจำนวนมากซึ่งการย้ายเข้ามาอาศัยในพื้นที่ของสวนสัตว์เชียงใหม่ดังกล่าวนี้คาดว่าน่าจะเนื่องมาจากเป็นแหล่งที่มีความอุดมสมบูรณ์ สงบ และปลอดภัย โดยฝูงนกแขวกดังกล่าวได้มีการทำรังอยู่บนยอดไม้สูงเรียงรายกันหลายร้อยรัง ซึ่งนับเป็นภาพที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน จึงขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมทั้งผู้สนใจเข้าเที่ยวชมได้ โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์นี้
สำหรับนกแขวกนั้น มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Nycticorax nycticorax เป็นนกชนิดหนึ่งจำพวกนกยาง จัดเป็นนกยางหรือนกกระยางชนิดที่ปรับตัวให้หากินในเวลากลางคืนได้ ซึ่งต่างจากนกยางทั่วไปที่หากินในเวลากลางวัน โดยได้ชื่อมาจากเสียงร้องที่ดัง “แคว้ก” ที่มักจะร้องดังขณะบินผ่านยามค่ำคืน มีแหล่งอาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำเกือบทุกประเภท
โดยเฉพาะแหล่งน้ำขนาดใหญ่ เช่น บึงที่มีไม้ยืนต้นขึ้นรกๆ หรือแม้แต่ตามสวนสาธารณะในเมืองใหญ่ มักเกาะอยู่กับกิ่งไม้หรือตอไม้นิ่งๆ เพื่อรอจับเหยื่อ ซึ่งได้แก่ สัตว์น้ำรวมถึงสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกเล็กๆ โดยแม้จะหากินในเวลากลางคืนเป็นหลักและไม่ค่อยบินไกลในเวลากลางวัน แต่พฤติกรรมการหากินในเวลากลางวันก็เป็นเรื่องปกติ
ทั้งนี้ พบกระจายพันธุ์อยู่ทั่วทุกภูมิภาคของโลก พบได้ทั้งในเขตอบอุ่นและเขตร้อน ยกเว้นทวีปออสเตรเลีย นกแขวกทางตอนใต้ของทวีปอเมริกา มีกระหม่อมและหลังสีเทาอ่อนกว่าที่อื่น นอกจากนี้ บริเวณส่วนหัวและอกก็เป็นสีน้ำตาลอมเทา ประชากรทางตอนเหนือจะอพยพบินสู่ทางใต้ในช่วงฤดูหนาว ทำรังวางไข่บนต้นไม้ มีพฤติกรรมอาศัยอยู่รวมกันเป็นอาณานิคมปะปนกับนกน้ำประเภทอื่นๆ โดยเฉลี่ยในตัวเมียจะมีเส้นขนยาวคล้ายเปียที่ท้ายทอยสั้นกว่าตัวผู้ และมีขนาดตัวเล็กกว่า ม่านตาจะค่อยๆ เปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีแดงก่ำเมื่ออายุได้ 3 ปีขึ้นไป ในวัยที่ยังไม่โตเต็มที่มีลำตัวเต็มไปด้วยลวดลายสีน้ำตาลกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม มีแต้มสีขาวตามขนปีก ลวดลายเหล่านี้จะหายไปและแทนที่ด้วยกระหม่อมและหลังสีเทาเข้ม ตัดกับลำตัวสีเทาอ่อนจนเกือบขาวเมื่อมีอายุมากขึ้น