หลังจากที่ดาราสาว แพตตี้-เขมิกา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า น้องชายคนสนิท คือน้องไอซ์ หรือ นายสมพร บูรณะศิริ ถูกจับข้อหามีไม้แปรรูปหวงห้าม (ไม้พะยูง) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ถูกคุมตัวมาที่ สภ.รัตนวาปี จ.หนองคาย พร้อมเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากผู้เกี่ยวข้องและยืนยันว่าน้องชายคนสนิทเป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งได้รับความสนใจจากโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้
ล่าสุดวันนี้ (9 เม.ย. 60) ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผบก.ภ.จ.หนองคาย ถึงประเด็นดังกล่าว โดย พล.ต.ต.ไพศาลเปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 ส.ค. 58 เจ้าหน้าที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขงสถานีเรือรัตนวาปี (นรข.) ได้ตรวจค้นเจอไม้พะยูงซุกซ่อนอยู่ในรถตู้โฟล์คสวาเกน สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน นข 2993 บุรีรัมย์ แต่เมื่อตรวจสอบเลขตัวถังพบว่าเป็นการสวมทะเบียนปลอม ส่วนทะเบียนจริงเป็น ฮน 7202 กรุงเทพมหานคร กรรมสิทธิ์ของธนาคารธนชาต
ผู้ครอบครองเป็นนายสมพร บูรณะศิริ อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 36/58 หมู่ 2 หมู่บ้านพฤกษาวิลเลจ 29 ต.คลอง 3 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกนายสมพรสองครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อ 17 ก.ย. 58 ครั้งที่สอง เมื่อ 27 ก.ย. 58 ผ่านทาง สภ.คลองหลวง จนกระทั่ง 20 ต.ค. 58 สภ.คลองหลวงมีหนังสือตอบกลับมาว่าไม่สามารถส่งหมายให้นายสมพรได้ เนื่องจากไม่พบพยานและบ้านหลังดังกล่าวปิด
พนักงานสอบสวนจึงได้ขออนุมัติจากศาลจังหวัดหนองคายออกหมายจับ ศาลอนุมัติในวันที่ 6 พ.ย. 2558 ต่อมา สภ.ปากเกร็ดได้ทำการจับกุมนายสมพร แล้วนำมาส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ในวันที่ 8 เม.ย. 60 นายสมพรได้ให้ปากคำกับตำรวจว่าตนไม่ใช่ผู้กระทำความผิด หลังจากให้ข้อมูลกับตำรวจแล้วได้ยื่นเงินสดวงเงิน 3 แสนบาทขอประกันตัวออกไปแล้ว
พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ กล่าวอีกว่า ตนได้สอบถามข้อมูลจาก ผกก.สภ.รัตนวาปี และพนักงานสอบสวนซึ่งรับช่วงต่อจากพนักงานสวบสวนคนแรกซึ่งย้ายไป จ.ขอนแก่น โดยได้สั่งการให้ ผกก.สภ.รัตนวาปีรวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุด ทั้งสัญญาเช่าซื้อรถ ผู้ค้ำประกัน พยานบุคคล ซึ่งจากสัญญาเช่าซื้อลายเซ็นไม่ใช่ของนายสมพร และนายสมพรบอกว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นของแม่บุญธรรม ซึ่งนายสมพรได้ย้ายออกไปนานแล้ว มีรายได้ไม่มาก ไม่สามารถซื้อรถตู้โฟล์คได้
อีกทั้งขณะที่เจ้าหน้าที่ นรข.ไปตรวจสอบไม้ของกลางนั้น นายสมพรอยู่ที่กรุงเทพฯ เมื่อหลักฐานหลายอย่างนำมาประกอบกันเชื่อได้ว่านายสมพรไม่น่าจะใช่ผู้ต้องหาในคดีนี้ โดยต้องตรวจสอบเพิ่มเติมแล้วนำหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องส่งให้ศาลจังหวัดหนองคายพิจารณาขอถอนหมายจับและนำส่งอัยการพิจารณาความเห็นต่อไป และตนขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย จะไม่นำคนบริสุทธิ์มารับโทษที่ไม่ได้ก่อ