ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ ม.เชียงใหม่ จัดการเสวนาหัวข้อ “บทเรียนจากอุโมงค์แม่งัด-แม่กวงถล่ม ประมาทหรือเหตุสุดวิสัย” ร้องขอความเป็นธรรมให้ 2 นักธรณีวิทยาที่เสียชีวิตโดยครอบครัวผู้เสียชีวิตร้องขอสภาทนายความให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายแล้ว เนื่องจากรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากที่บริษัท อิตาเลียนไทย เพิ่งให้เงินช่วยเหลือเพียง 15,000 บาท
วันนี้ (7 เม.ย. 60) ที่ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผศ.ดร.มนูญ มาศนิยม หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมเหมืองแร่และวัสดุ พร้อมด้วย ดร.ธนู หาญพัฒนพาณิชย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านที่ปรึกษา วิศวกรรมธรณีวิทยา กรมชลประทาน, ดร.อรรถกิจ อาสาฬห์ประกิต รองประธานคณะกรรมการฝ่ายกิจกรรมในประเทศ คณะกรรมการงานก่อสร้างใต้ดินและอุโมงค์ และ ดร.บูรพา แพจุ้ย หัวหน้าภาควิชาธรณีวิทยา ได้ร่วมกันจัดเสวนา “บทเรียนจากอุโมงค์แม่งัด-แม่กวงถล่ม ประมาทหรือเหตุสุดวิสัย” โดยมีครอบครัวนักธรณีวิทยาที่เสียชีวิต นักธรณีวิทยาที่รอดจากเหตุการณ์ดังกล่าว และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังการเสวนาในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
โดยในการเสวนาที่จัดขึ้นในครั้งนี้ได้มีการพูดถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย และวิเคราะห์ถึงสาเหตุการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น รวมทั้งข้อผิดพลาดของการก่อสร้างซึ่งสืบเนื่องมาจากเหตุหินถล่มในอุโมงค์ผันน้ำแม่งัด-แม่กวง เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นเหตุให้นักธรณีวิทยา 2 ราย คือ นายปรัชญาวัต วสุอนันต์ และนายปฐมพร ศิริวัฒน์ เสียชีวิตนั้น ตามกระแสข่าวที่ออกมาใช้ข้อความว่าเป็นเหตุสุดวิสัย และนักธรณีวิทยาเข้าไปในอุโมงค์เร็วเกินไป รวมทั้งกล่าวอ้างถึงหน้าที่ของนักธรณีวิทยาว่าเป็นผู้ดูแลควบคุมการออกแบบค้ำยันและความปลอดภัยในการก่อสร้างอุโมงค์
ขณะที่จากการตรวจสอบจากภาพถ่ายที่ได้ถ่ายไว้ตามแนวอุโมงค์ทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังจากเกิดเหตุ แสดงให้เห็นว่า ตำแหน่งที่เกิดการถล่มของหินลงมาทับนักธรณีวิทยา คือ ตำแหน่งที่ 635 เมตรซึ่งอยู่ระหว่างการเจาะระเบิดไปแล้วจำนวน 3 รอบ และรอบที่ 630-633 เมตร รอบที่ 633-636 เมตรและรอบที่ 636-639 เมตร ซึ่งตามการออกแบบที่ได้ระบุไว้ว่าจะต้องได้รับการค้ำยันโดยใช้ตะแกรงเหล็กทำการค้ำยันโดยการพ่นคอนกรีตฉาบตามความหนาที่ระบุไว้ 10 เซนติเมตร แต่พบมีความหนาเพียงประมาณ 2-3 เซนติเมตร
สำหรับการค้ำยันโดยการติดตั้งแท่งเหล็กยึดนั้นพบว่ามีแท่งเหล็กยึด แต่ในจำนวนที่ไม่เท่ากับที่ระบุไว้ในแบบก่อสร้าง และที่สำคัญคือแท่งเหล็กยึดที่ทำการติดตั้งจะไม่ได้เชื่อมประสานระหว่างแท่งเหล็กกับหิน รวมทั้งยังไม่ได้ทำการขันแผ่นเหล็กส่วนปลายเพื่อให้แท่นเย็บติดกับหิน จึงนับได้ว่าเป็นการติดตั้งที่ไม่สมบูรณ์
ทั้งนี้ คณะอาจารย์ของภาควิชาธรณีวิทยา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมผู้เชี่ยวชาญการขุดเจาะอุโมงค์ การค้ำยัน ที่ร่วมการเสวนา ได้เรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ผู้เสียชีวิตทั้งสองด้วย หลังมีการกล่าวอ้างว่ากรณีดังกล่าวเป็นการประมาทหรือเหตุสุดวิสัย มีการกล่าวว่านักธรณีวิทยาเป็นผู้ดูแลควบคุมการออกแบบค้ำยันและความปลอดภัยในการก่อสร้างอุโมงค์ และนักธรณีวิทยาเข้าไปในอุโมงค์งานเร็วเกินไป
แต่ในความเป็นจริงแล้ว หน้าที่ของนักธรณีวิทยาในงานก่อสร้างอุโมงค์ครั้งนี้คือการทำแผนที่ทางธรณีวิทยาของหน้าตัดมุม ที่ระบุชนิดของมวลหินและการวางตัวของรอยแตก เพื่อนำข้อมูลส่งต่อให้กับวิศวกรติดตั้งระบบค้ำยันและทำการระเบิดในครั้งต่อไป
การกล่าวอ้างว่านักธรณีวิทยาเข้าไปในอุโมงค์เร็วเกินไปนั้นจึงไม่เป็นความจริง แต่สิ่งที่ควรจะหาคำตอบคือ ใครเป็นผู้อนุญาตให้เข้าไปปฏิบัติงาน ตลอดจนควรมีวิศวกรที่มีประสบการณ์ด้านงานขุดเจาะอุโมงค์โดยใช้วัตถุระเบิด รวมทั้งนักธรณีที่มีประสบการณ์งานอุโมงค์มาทำงาน นอกเหนือจากนักธรณีผู้ช่วยที่จบมาใหม่ และวิศวกรด้านต่างๆ ตามที่กำหนดในมาตรฐานของงานก่อสร้างอุโมงค์และในมาตรการความปลอดภัยถูกต้องครบถ้วนจริงหรือไม่
ด้านนางเพ็ญจันทร์ วสุอนันต์ มาดาของนายปรัชญาวัต วสุอนันต์ หนึ่งในนักธรณีวิทยาที่เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว เปิดเผยว่า ตามที่ทางบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลลอปเมนต์ ซึ่งลูกชายทำงานให้ บอกว่าจะมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 50,000 บาทนั้น ที่ผ่านมาได้รับจริงเพียง 15,000 บาทเท่านั้น และเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านได้ให้นิติกรของบริษัทเข้ามาเจรจาที่สถานีตำรวจภูธรแม่แตงว่าจะมอบเงินชดเชยให้เป็นเงินจำนวน 300,000 บาท และจะได้เงินประกันชีวิตของผู้ตายอีกราวๆ 200,000-300,000 บาท
ครอบครัวรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม จึงร้องขอไปยังสภาทนายความจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องคดีเพื่อขอความเป็นธรรมให้แก่ผู้ตายทั้งสอง
ขณะที่นายธีระเพชร บุญธง อายุ 23 ปี นักธรณีวิทยาผู้อยู่ในเหตุการณ์และรอดชีวิต เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ ตนได้เข้างานในช่วงเช้าเวลาประมาณ 07.00 น.ซึ่งขณะนั้นได้พบว่านายปฐมพร ผู้เสียชีวิตอยู่กับเจ้าหน้าที่วิศวกรและช่างของบริษัท อิตาเลียนไทย กำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับอุโมงค์ที่ได้มีการเปิดใหม่ ขณะนั้นทาง นายปฐมพรได้ชี้ให้ตนเห็นจุดที่เกิดรอยร้าว โดยตนได้พุดคุยกับทางนายปฐมพรว่ากลัวรอยร้าวดังกล่าวจะถล่มลงมา และหลังจากพูดคุยกันเสร็จก็ได้ออกไปอุโมงค์อีกฝั่งที่อยู่ฝั่งซ้าย ต่อมาเวลาประมาณ 08.00 น. นายปรัชญาวัตได้เข้ามาทำงานกับตนและผู้เสียชีวิต รวมทั้งหมด 3 คน แล้วได้เดินเข้าไปทำการสำรวจจุดบริเวณด้านหน้าที่เปิดใหม่
โดยตอนไปถึงตนได้ชี้ให้นายปรัชญาวัตดูว่ามีจุดร้าว แต่นายปรัชญาวัตได้ระบุว่ามีการใส่ล็อกโวลต์แล้ว แต่ทางตนก็แนะนำให้เอาออกก่อนเพราะเกรงว่าผนังเพดานจะตกลงมา และหลังจากพูดคุยกันด้วยความกังวลว่าจุดเกิดถล่มลงมาตนได้เดินออกห่างจากจุดดังกล่าวประมาณ 5 เมตร และระหว่างนั้นก็มีเศษหินร่วงลงมาขนาดก้อนเท่ามือถือก่อนที่จะถล่มลงมาอย่างรวดเร็วจนทับร่างทั้งสองคนจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว