xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจคำเขื่อนแก้วจับเฒ่าตัณหากลับ หลอกข่มขืนเด็กหญิงวัย 5 ขวบข้างบ้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ยโสธร - เฒ่าวัย 57 ปี ตัณหากลับ ข่มขืนเด็กหญิงอายุแค่ 5 ขวบ เผยก่อนเกิดเหตุพาเด็กข้างบ้านนั่งซ้อนท้ายจักรยานออกไปทุ่งนา คล้อยหลังไป 1 ชั่วโมงเด็กกลับมาบ้าน ผู้ปกครองพบมีคราบเลือดติดกางเกง ทั้งอวัยวะเพศบวมช้ำ แพทย์ลงความเห็นถูกร่วมประเวณี ญาติโร่แจ้งความจับผู้ต้องหา ตำรวจค้านประกันตัว

วันนี้ (7 เม.ย. 60) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ได้คุมตัวนายบุญเพ็ง เสาร์แก้ว อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 157 หมู่ 7 บ้านบกน้อย ตำบลดงแคนใหญ่ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ผู้ต้องหา หลังจากก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุ 5 ขวบ ที่เป็นเพื่อนบ้านกัน โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2560 นางเพ็งศรี (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ตำบลดงแคนใหญ่ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร

ได่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ประสงค์ งามสง่า สว.(สอบสวน) สภ.คำเขื่อนแก้ว ว่านางมะลิ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นมารดาของตนได้เล่าให้ฟังว่า ด.ญ.นก (นามสมมติ) อายุ 5 ขวบ หลานสาวที่อยู่ในความปกครองของตนมีเลือดเปื้อนที่กางเกง สำรวจตามเนื้อตัวของเด็กพบมีรอยบวมช้ำที่อวัยวะเพศ จึงไปสอบถามทราบว่าวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ช่วงเช้าเด็กได้นั่งรถจักรยานออกไปทุ่งนากับนายบุญเพ็ง เสาแก้ว ผู้ต้องหา ประมาณ 1 ชั่วโมง เด็กจึงเดินเท้ากลับเข้ามาเพียงคนเดียว

มีพยานเพื่อนบ้านเห็นว่า เด็กนั่งซ้อนท้ายจักรยานไปกับผู้ต้องหาจริง จนกระทั่งวันต่อมาผู้ปกครองจึงไปพบคราบเลือดที่กางเกงของเด็ก จึงเชื่อว่าเด็กอาจจะถูกข่มขืนแน่นอน จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาเด็กเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว โดย พญ.ศุภนิดา คำนิยม แพทย์ผู้ตรวจลงความเห็นว่าผู้เสียหายอาจจะมีการร่วมประเวณี เนื่องจากตรวจพบว่ามีบาดแผลฉีกขาดที่บริเวณแคมเล็กด้านขวา และบาดแผลฉีกขาดใหม่ที่บริเวณเยื่อพรหมจรรย์ และมีบาดแผลถลอกบวมแดงบริเวณเยื่อบุพรหมจรรย์

ทำให้เชื่อได้ว่าผู้เสียหายถูกล่วงละเมิดทางเพศ จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับที่ 51/2560 ลงวันที่ 5 เม.ย. 2560 เข้าจับกุมนายบุญเพ็ง เสาร์แก้ว ผู้ต้องหาได้ที่บ้านพัก เมื่อ 6 เมษายน โดยกล่าวหาว่า ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น, กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ซึ่งมิใช่ภริยาตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้เด็กนั้นเข้าใจผิดคิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น, พาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร และโดยปราศจากเหตุอันสมควร พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายบุญเพ็ง  เสาร์แก้ว ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
สอบถามนางไพวัลย์ เสาร์แก้ว ภรรยาผู้ต้องหา อ้างว่าผู้ต้องหาเป็นคนดี เหล้า บุหรี่ อบายมุขไม่เคยแตะ เป็นคนสมถะ ตนพร้อมญาติๆ ไม่เคยคิดว่าสามีจะทำเรื่องแบบนี้ และยอมรับว่าผู้เสียหายได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานสองล้อไปกับผู้ต้องหาที่ทุ่งนาจริงเพื่อไปเก็บมะม่วง เนื่องจากเป็นเพื่อนบ้านกันและให้การปฏิเสธไม่ได้ก่อเหตุข่มขืนเด็กตามที่ถูกกล่าวหา ส่วนบาดแผลที่พบในตัวเด็กนั้นผู้ต้องหาบอกว่าเกิดจากเด็กได้ลื่นตกจากรถจักรยานสองล้อจนเกิดมีบาดแผลดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่อนุญาตให้ประกันตัว และจะได้เร่งสอบพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ รวบรวมหลักฐานที่ชัดเจนในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป

ล่าสุด เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยโสธร และจากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดยโสธร ได้ลงพื้นที่บ้านพักของเด็กผู้เสียหายเพื่อติดตามและสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นพร้อมกับเยียวยาและฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็ก โดยเด็กผู้เสียหายมีน้องอีก 1 คน ซึ่งเป็นแฝดกันพักอาศัยอยู่กับนางเพ็งศรี มีศักดิ์เป็นย่า บิดาและมารดาเด็กได้เลิกร้างกันเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ผู้เป็นบิดาจึงนำบุตรทั้ง 2 คนมาให้ย่าเป็นคนอุปการะเลี้ยงดูเรื่อยมา ส่วนผู้ต้องหาก็เป็นญาติกันและมีบ้านพักอาศัยอยู่ใกล้เคียงกันไปมาหาสู่กันเป็นประจำ ตัวเด็กเองมักไปเที่ยวเล่นที่บ้านของผู้ต้องหาอยู่เป็นประจำ กระทั่งวันเกิดเหตุผู้ต้องหาชักชวนเด็กนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานสองล้อไปที่ทุ่งนานานประมาณ 1 ชั่วโมง เด็กจึงวิ่งกลับบ้านและพบว่าที่กางเกงของเด็กมีคราบเลือดจำนวนมาก จึงเชื่อว่าเด็กถูกข่มขืนดังกล่าว

ขณะที่ พ.ต.อ.ณรงค์ สายโน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคำเขื่อนแก้ว กล่าวว่า ขณะนี้นายบุญเพ็งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพแล้วและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วยความสมัครใจ ซึ่งต่อไปเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดยโสธร และจะเร่งสอบสวนผู้ต้องหา สอบพยานบุคคลรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อส่งอัยการจังหวัดยโสธรยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดยโสธรต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น