จันทบุรี - แรงงานกัมพูชาทยอยกลับบ้านเทศกาลสงกรานต์ เจ้าหน้าที่ต้องจัดระเบียบ และอำนวยความสะดวก
วันนี้ (7 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสำรวจการเดินทางกลับประเทศของแรงงานชาวกัมพูชา เพื่อกลับไปเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ในเช้านี้ที่ตลาดการค้าชายแดนบ้านแหลม ตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี บรรยากาศหน้าด่านคึกคักเนืองแน่นไปด้วยแรงงานชาวกัมพูชานับหมื่นคน ที่เดินทางกลับบ้านเพื่อกลับไปเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์
โดยมีการเดินทางเริ่มตั้งแต่ช่วงวันที่ 1 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา และเริ่มหนาแน่นขึ้นในวันนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทั้งไทย และกัมพูชาต้องบูรณาการร่วมกันจัดระเบียบในด้านเอกสาร ซึ่งขั้นตอนค่อนข้างยุ่งยาก สืบเนื่องจากเอกสารการเดินทางของแรงงานผู้ถือบัตรอนุญาตทำงานแบบปี หรือบัตรสีชมพูที่ต้องมีนายจ้างแจ้งแรงงานจังหวัด และให้แรงงานถือเอกสารเดินทางเองก่อนกลับเข้าประเทศจึงมีการตรวจสอบเอกสาร และแรงงานบางรายไม่เข้าสู่ระบบ
คือ นายจ้างไม่ได้แจ้งการเดินทางกลับของแรงงานจึงทำให้เกิดการล่าช้า ทั้งนี้ ในแต่ละวันมีแรงงานชาวกัมพูชาเดินทางกลับประเทศวันละ 5,000-6,000 คน ส่วนแรงงานที่มีพาสปอร์ตนั้นไม่มีปัญหามากนัก จะวุ่นวาย คือ การที่เดินทางมาพร้อมๆ กันจนต้องจัดคิวยาวทำให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี ต้องเพิ่มเจ้าหน้าที่ และทำงานหนักยิ่งขึ้น
จากการที่แรงงานเริ่มเดินทางกลับตั้งแต่ต้นปีของเทศกาลนั้น สืบเนื่องจากระบบขนส่งมวลชน หรือรถโดยสารของกัมพูชามีน้อย หากกลับช่วงเทศกาลอาจจะตกหล่นไม่สามารถกลับทันเทศกาลได้ เพราะแม้จะมีการเดินทางล่วงหน้าที่ยาวไกลหลายวัน ทุกวันนี้ยังต้องมีแรงงานตกค้างพักแรมตามชายแดนในฝั่งกัมพูชาจำนวนมาก
ดร.รัชวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย กัมพูชา กล่าวว่า ตอนนี้แรงงานชาวกัมพูชากำลังเดินทางกลับบ้านเป็นจำนวนมาก แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่ตนเองมองเป็นอุปสรรคปัญหาในการเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย ก็คือ ในเรื่องของรัฐบาลยืดเวลาให้เป็นเรื่องที่ดีมาก แต่ว่ากรมการจัดหางาน ได้ออกระเบียบในเรื่องต้องมีใบกำกับในการเดินทางเข้าออก แต่ว่าเมื่อกรมการจัดหางาน ออกระเบียบนี้ขึ้นมาเพื่อมีใบเดินทางควบคุม
แต่กรมการจัดหางาน ไม่ประชาสัมพันธ์ให้แก่นายจ้างได้รับทราบ โดยมีนายจ้างหลายคนไม่ทราบ ซึ่งตนเองได้สอบถามกับแรงงานที่เดินทางกลับแรงงานก็ไม่ทราบ รวมทั้งนายจ้างก็ไม่ทราบ นี่เป็นสิ่งที่เสียหายมากเพราะแรงงานที่มาถึงหน้าด่านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่ฝ่ายตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย จะต้องคัดกรองแรงงานคนไหนเอกสารไม่ครบ ไม่มีใบกำกับของกรมการจัดหางานมา เขาจะต้องไปทำประวัติผลักดันตามมาตรา 54 ของ ตม. ส่วนแรงงานที่ใบครบก็ดำเนินการตามระบบของ ตม.ไป
โดยวันนี้จะเห็นว่า ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองบูรณาการร่วมกับภาคเอกชนได้บูรณาการกันหมด ตามนโยบายประชารัฐของรัฐบาล แต่สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือ ผู้ที่ไม่มีใบควบคุมของกรมการจัดหางาน ไม่สามารถกลับมาประเทศไทย และทำงานกับนายจ้างได้ซึ่งตรงนี้จะเป็นผลเสียเป็นอย่างมากอีกด้วย