นครปฐม - สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จับมือบริษัทเอกชน รณรงค์ดื่มไม่ขับ ขับไม่ดื่ม ร่วมรับผิดชอบสังคมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมเปิดจุดพักผ่อนอำนวยความสะดวก บริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์อย่างละเอียด 60 รายการฟรี
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (5 เม.ย.) ที่บริเวณปั๊มน้ำมัน กิโลเมตรที่ 26 ถนนบรมราชชนนีขาออก อำเภอสามพราน พล.ต.อ.สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา สบ 10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผู้บังคับการสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จับมือร่วมกับบริษัทเอกชน จัดกิจกรรมรณรงค์ “ดื่มไม่ขับ ขับไม่ดื่ม ร่วมรับผิดชอบสังคม” โดยจัดให้มีการปล่อยแถวรณรงค์ดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนบนท้องถนน เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกที่ดีให้แก่ประชาชน ในการร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคม ลดและป้องกันอุบัติเหตุ
พล.ต.อ.สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา สบ 10 เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ระหว่างวันที่ 11 ถึง 17 เมษายน 2560 ในช่วงวันดังกล่าวจะมีประชาชนออกมาใช้รถใช้ถนนเพื่อเดินทางสัญจรกลับภูมิลำเนา และพาครอบครัวไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ทำให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนสูงขึ้นกว่าปกติ และมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น
โดยสาเหตุหลักส่วนใหญ่เกิดจากการดื่มสุราแล้วขับรถ ซึ่งตนในฐานะที่กำกับดูแลกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ซึ่งเป็นพื้นที่เสมือนประตูด่านมุ่งไปสู่ 14 จังหวัดภาคใต้ จึงมีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงได้ร่วมกับภาคเอกชน คือ บริษัท เพอร์นอต ริคาร์ต ประเทศไทย จำกัด บริษัท บริดจสโตน เอซีที ประเทศไทย จำกัด ในนามศูนย์บริการรถยนต์ แอค ร่วมกัน รณรงค์จัดกิจกรรมนี้ขึ้น โดยเชิญศิลปินดารามาร่วมประชาสัมพันธ์
นอกจากนี้ ก็จะมีการเปิดจุดบริการประชาชนตามพื้นที่ต่างๆ ของภาค 7 เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้แวะพักผ่อน รวมทั้งตรวจซ่อมรถ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยบนท้องถนน โดยแต่ละจุดจะมีบริการน้ำดื่มสะอาด ผ้าเย็น สายพ่วงแบตเตอรี่ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ตลอดจนการให้บริการเช็กสภาพแบตเตอรี่รถยนต์ จากช่างที่เชี่ยวชาญโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
พล.ต.อ.สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา สบ 10 ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กิจกรรมนี้สำนักตำรวจแห่งชาติ ได้ขอความร่วมมือกับผู้ใช้รถใช้ถนนให้ปฏิบัติตามข้อแนะนำเรื่องความปลอดภัยทางถนน คือ ไม่ดื่มสุราทั้งก่อนและขณะขับรถ ไม่เล่นน้ำบนท้ายกระบะรถยนต์ และขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ ขับรถด้วยความเร็วตามกฎหมายกำหนดทั้งในเขตนอกเมืองและในเมือง ใช้ความเร็วตามที่ป้ายกำหนด และเขตชุมชนไม่เกิด 60 กม./ชั่วโมง และต้องมีการคาดเข็มขัดนิรภัยทั้งผู้โดยสาร และผู้ขับขี่ ส่วนรถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง ทั้งคนขี่และคนซ้อนท้าย เพื่อเป็นการช่วยลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน ขณะที่ในช่วงเวลาของการควบคุมเข้มข้น 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 11 ถึง 17 เมษายน 2560 จะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดโดยไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เน้นเคารพกฎจราจร มีวินัยในการขับขี่ ไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย
สำหรับประเด็นการคาดเข็มขัดนิรภัย และสวมหมวกกันน็อกนั้น หากพบผู้ฝ่าฝืนไม่คาดเข็มขัดถือว่ามีโทษปรับตามกฎหมายไม่เกิน 500 บาท แต่ที่ประชุมวันนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายว่า ช่วงแรกจะผ่อนปรน โดยถ้าหากประชาชนฝ่าฝืนไม่ทำตามกฎหมายจะมีโทษปรับเพียง 100-200 บาท ทั้งนี้ ค่าปรับที่ต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ เช่น ใน กทม.กับต่างจังหวัดก็แตกต่างกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้ใช้ดุลพินิจจะปรับในอัตรานี้ไประยะหนึ่ง จุดประสงค์เพื่อตักเตือนประชาชนก่อนจะบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เมื่อประชาชนปรับตัวกับข้อบังคับก็จะเข้มงวดขึ้น
ส่วนรถโดยสารสาธารณะ จะเน้นการบังคับใช้ต่อผู้โดยสารที่ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ขับขี่ เพราะถือเป็นเจตนาของผู้โดยสารในการละเมิดกฎหมาย พร้อมขอความร่วมมือผู้รถใช้ถนนในการคาดเข็มขัดนิรภัย และสวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่ หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ เพื่อให้เป็นมาตรฐานสากล ลดการสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน