ตราด - ชุดปฏิบัติการฉลามขาว นำกำลังตรวจยึดป่าชายเลนคืนกว่า 228 ไร่ ใน 5 ตำบล พบนายทุน นักการเมืองท้องถิ่นรุกป่าสงวนแห่งชาติ เตรียมตรวจสอบอีกครั้ง
วันนี้ (5 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สถานีทรัพยากรป่าชายเลยที่ 45 (ด่านเก่าตราด) ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด นายรัชชัย พรพา หัวหน้าชุดปฏิบัติการฉลามขาว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการฯที่ 1 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายไตรรัตน์ เรืองนาม หัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 4 พร้อมกำลังทหาร ตำรวจกว่า 50 นาย ร่วมปฏิบัติการพลิกฟื้นผืนป่าชายเลนในพื้นที่ 5 ตำบล ในเขตอำเภอเมืองตราด เนื้อที่กว่า 228 ไร่
การตรวจยึดในครั้งนี้แบ่งชุดปฏิบัติการ 4 ชุด ลงพื้นที่พร้อมกันเป้าหมาย 10 จุด ตำบลวังกระแจะ ที่หมู่ 8 จำนวน 6 จุด มีพื้นที่บุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าปากคลองบางพระ ป่าเกาะเจ่า และป่าเกาะลอย ขณะที่ตำบลตะกาง ม.4 บ้านทุ่งเพชร เนื้อที่ 41 ไร่ 1 งาน 76 ตารางวา และตำบลแหลมกลัด 1 จุด ที่ ม.8 บ้านแหลมกลัด เนื้อที่ 19 ไร่ 3 งาน 68 ตารางวา ที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าท้องอ่าว และตำบลหนองเสม็ด ม.2 บ้านท่าตะเภา เนื้อที่ 3 ไร่ 1 งาน 90 ตารางวา ตำบลหนองคันทรง หมู่ 2 บ้านท่าระแนะ เนื้อที่ 16 ไร่ 1 งาน 61 ตารางวา บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเลนท่าตะเภา และป่าเลนน้ำเชี่ยว รวมพื้นที่ถูกบุกรุก 228 ไร่ 7 งาน 42 ตารางวา
นายรัชชัย กล่าวว่า วันนี้พื้นที่เป้าหมายทั้งหมด 10 จุด ทางเจ้าหน้าที่จะทำการสำรวจไว้แล้ว และพบว่ามีการบุกรุกเขตป่าสงวนจริงทั้งหมด โดยทั้ง 10 จุด มีการบุกรุก และปรับพื้นที่ทำนากุ้ง รีสอร์ต ปลูกสวนปาล์ม ทำบ้านนกนางแอ่น ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มนายทุนที่ทางรัฐบาลสั่งการให้มีการดำเนินการจับกุมอย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ ในที่พื้นที่ม.8 ต.วังกระแจะ มีการบุกรุกมากที่สุด มีทั้งชาวบ้าน นายทุน นักการเมืองท้องถิ่น ที่มีพื้นที่รุกล้ำเข้าไปในเขตป่าสงวนแห่งชาติ บางรายเพิ่งจะถางป่าเข้าไปรุกป่าเมื่อปีที่แล้วก็ยังมี หลังจากนี้ จะลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
หัวหน้าชุดปฏิบัติการฉลามขาว กล่าวต่อว่า พื้นที่ที่ตรวจยึดวันนี้จะปรับพื้นที่นำต้นไม้มาปลูก พร้อมทั้งทำประกาศเป็นพื้นที่ป่า ตีแนวเขตให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้มีการบุกรุกซ้ำ ขณะเดียวกัน ถ้ามีชาวบ้าน หรือนายทุนเข้ามาบุกรุกใหม่จะดำเนินาการทางกฎหมายสถานเดียว
