สุรินทร์ - สุดสลด หนูน้อยวัย 11 ขวบ และ 12 ปีชาวปราสาท เมืองช้าง ขี่จักรยานยนต์พ่วงนำไก่ชนไปขายหารายได้ ถนนไม่ดีเป็นทางต่างระดับ จักรยานยนต์พ่วงเสียหลักพลิกคว่ำกระเด็นออกจากรถ ขณะเดียวกันรถบรรทุกพ่วงวิ่งสวนทางมาชนเหยียบซ้ำร่างเละดับสยอง 2 ศพ
วันนี้ (4 เม.ย.) ร.ต.อ.ธนกร พวงจำปา พนักงานสอบสวนเวร สภ.ทุ่งมน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ทุ่งมนว่าเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต เป็นเด็ก 2 ราย ที่ถนนสายบ้านเชื้อเพลิง-บ้านตาปาง ภายในหมู่บ้านปจิก ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ จึงรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยอาสาสมัครกู้ชีพ ศูนย์วิทยุ สมาคมวีอาร์กู้ชีพสุรินทร์ จุด อ.ปราสาท รถกู้ชีพ อบต.ไพล รถพยาบาลสมาคมวีอาร์กู้ชีพสุรินทร์ จุด อ.ปราสาท
ในที่เกิดเหตุเป็นถนนต่างระดับจากการวางท่อน้ำลอดใต้ถนนเป็นคลองส่งน้ำ ประกอบกับเป็นช่วงทางโค้ง พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ รุ่น Smash 110 สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กษม 990 สุรินทร์ ดัดแปลงเป็นรถพ่วงข้าง ในสภาพหงายท้องอยู่กลางถนนพังยับเยิน ถัดไปพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน ตัวแม่ 81-9058 สุรินทร์ ตัวลูกพ่วง 81-9059 สุรินทร์ ของ บริษัท สุรพินทร์ จำกัด สภาพด้านหน้าฝั่งขวามีร่องรอยการชนยุบเสียหาย
ขณะที่บริเวณกลางถนนพบผู้เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ เป็นเด็กชาย 2 ราย ทราบชื่อคือ ด.ช.ธีรดนย์ ตรงสูญดี อายุ 12 ปี และ ด.ช.พรรษกร สิงห์โท อายุ 11 ขวบ อยู่บ้านภูมิใหม่ ต.ไพล อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
จากการสอบถามชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า รถจักรยานยนต์พ่วงข้างคันเกิดเหตุ มี ด.ช.ธีรดนย์ ตรงสูญดี อายุ 12 ปี เป็นคนขับ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งถนนเป็นทางต่างระดับ รถได้เสียหลักพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและพลิกคว่ำ เด็ก 2 คนกระเด็นออกจากรถไปตกกลางถนน ในจังหวะเดียวกันรถบรรทุกพ่วง ซึ่งมีนายจักรพงษ์ กุลรัตน์ อายุ 31 ปี เป็นคนขับ ได้วิ่งสวนทางมาด้วยความเร็ว เบรกไม่ทันพุ่งชนอย่างแรงและเหยียบซ้ำเด็กทั้งสองคนจนศีรษะแหลกเละ ร่างกายกระดูกหักหลายส่วน ทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที
ขณะญาติที่เดินทางมายังจุดที่เกิดเหตุบอกว่า เด็กน้อยทั้ง 2 คนชอบเพาะเลี้ยงไก่บ้านและไก่ชนขายหารายได้ วันนี้มีคนสั่งซื้อไก่ชน จึงพากันจับไก่ชนใส่ถุงปุ๋ยเพื่อนำไปส่งขายให้คนสั่งซื้อ แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุถนนไม่ดี เป็นทางต่างระดับทำให้รถเสียหลักพุ่งล้มคว่ำและถูกรถบรรทุกพ่วงเหยียบซ้ำจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
อาสาสมัครกู้ชีพ และอาสากู้ภัย ได้นำร่างของหนูน้อยทั้ง 2 คนส่งโรงพยาบาลปราสาทเพื่อให้แพทย์ชันสูตรการเสียชีวิต และมอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
นายจักรพงษ์ กุลรัตน์ คนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บอกว่า ขณะที่เกิดเหตุไม่ทราบว่า รถจักรยานยนต์ของเด็กพ่วงข้างจะเสียหลักพลิกคว่ำและร่างเด็กกระเด็นมาในเลนที่ตนขับสวนทางมา ซึ่งมันกระชั้นชิดมากและเบรกไม่อยู่ จึงชนเข้ากับร่างเด็กทั้งสองคน นับเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสงสารเด็กมาก ซึ่งหลังเกิดเหตุแล้วตนรอให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในจุดที่เกิดเหตุไม่ได้หนีไปไหน