xs
xsm
sm
md
lg

พ่อแม่เหยื่อไฟคลอก 17 ศพฟ้องศาลเอง หลัง ตร.-อัยการสรุปเป็นอุบัติเหตุ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เชียงราย - พ่อ-แม่ ผู้ปกครองเด็กหญิงเหยื่อไฟไหม้บ้านพักโรงเรียมมูลนิธิฯ เชียงราย ดับ 17 ศพ เดินหน้ายื่นฟ้องศาลเอง หลังตำรวจ-อัยการสรุปสำนวนเป็นอุบัติเหตุไร้คนผิด ยุติคดีไปแล้ว

วันนี้ (4 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ่อ-แม่ ผู้ปกครองของนักเรียนหญิง ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ไฟไหม้บ้านพักนักเรียนหญิงของโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา มูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ (องค์กรสาธารณประโยชน์) เลขที่ 9 ม.11 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เมื่อกลางดึก 22 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีนักเรียนหญิงเสียชีวิตจำนวน 17 ศพ พร้อมที่ปรึกษากฎหมายจากมูลนิธิกระจกเงา และมูลนิธิคนึง ฦาไชย ได้เดินทางไปยังศาล จ.เชียงราย ทั้งนี้ เพื่อยื่นฟ้องเอาผิดต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง หลังจากก่อนหน้านี้ทางพนักงานสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการได้สรุปสำนวนว่า เป็นอุบัติเหตุที่ไม่ปรากฎผู้กระทำความผิด ทำให้เรื่องยุติในระดับอัยการไปแล้ว

นายภูริช ฦาไชย ที่ปรึกษากฎหมายจากมูลนิธิคนึง ฤาไชย และสมชาติ พิพัฒน์ธนาดล หัวหน้าสำนักงานกฎหมายเพื่อพิทักษ์สิทธิ มูลนิธิกระจกเงา พร้อมด้วยกลุ่มผู้ปกครอง ได้นำสำนวนยื่นฟ้องมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ (องค์กรสาธารณประโยชน์) ในฐานะเป็นนิติบุคคลที่รับผิดชอบกับบ้านพักเด็กหลังดังกล่าว และประธานหรือผู้บริหารมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ (องค์กรสาธารณประโยชน์) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ผู้ใดกระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปีและปรับไม่เกิน 20,000 บาท

นายสมชาติกล่าวว่า ผู้ปกครองที่เข้ายื่นฟ้องครั้งนี้มีจำนวน 2 รายก่อน และอยู่ระหว่างปรึกษาเรื่องข้อมูลอีก 2 ราย เนื่องจากช่วงที่มีการเจรจาหลังเกิดเหตุ ได้ไปรับเงินช่วยเหลือจากตัวแทนมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ (องค์กรสาธารณะประโยชน์) รายละประมาณ 100,000 บาท จึงกังวลว่าเมื่อรับการช่วยเหลือแล้วจะสามารถยื่นฟ้องร้ององค์กรดังกล่าวได้อีกหรือไม่ ส่วนรายอื่นๆ สามารถปรึกษาเพื่อดำเนินการเหมือนกันได้ต่อไป

ด้านนายภูริช กล่าวว่า การฟ้องร้องครั้งนี้มุ่งประเด็นเรื่องสถานที่พักของเด็กที่เป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ซึ่งทางมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ (องค์กรสาธารณประโยชน์) ดูแลรับผิดชอบอยู่ แต่จากการหาข้อมูลหลักฐาน และสอบถามพยานต่างๆ พบว่า ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี เช่น เป็นบ้าน 2 ชั้นแต่มีบันไดขึ้นลงทางเดียว ไม่มีบันไดหนีไฟ ไม่มีไฟฉุกเฉิน หน้าต่างเป็นลูกกรงเหล็ก ประตูด้านล่างปิด ฯลฯ ทำให้เมื่อเกิดไฟไหม้เด็กหญิงอายุน้อยไม่สามารถหลบหนีออกมาจากที่เกิดเหตุได้เลย

ดังนั้นจึงได้มีการรวบรวมหลักฐานซึ่งมาจากตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน และพยาน เช่น พ่อแม่ผู้ปกครอง เด็กนักเรียนที่รอดชีวิต ฯลฯ ซึ่งเคยไปเห็นและรับทราบข้อมูลจากการเข้าไปเกี่ยวข้องกับสถานที่ดังกล่าว โดยเป็นทั้งพยานในเหตุการณ์และพยานประจักษ์แวดล้อม

ที่ปรึกษากฎหมายฯ กล่าวอีกว่า หลังจากยื่นเรื่องต่อศาลแล้ว ก็คงรอศาลพิจารณา หากรับเรื่องก็จะมีการนัดไต่สวนมูลฟ้อง และหากมีมูลก็จะมีการสืบพยานตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งจากข้อมูลหลักฐานและพยาน แต่ครั้งนี้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องขอทราบสำนวน ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยื่นต่ออัยการ เพราะเชื่อว่าเท่าที่มีอยู่ก็เพียงพอต่อคดีนี้แล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น