บุรีรัมย์ - โชเฟอร์แท็กซี่พลเมืองดีชาวบุรีรัมย์เผยนาทีระทึกช่วยสาวพม่าจากเงื้อมมือแท็กซี่หื่นลวงไปบังคับข่มขืนทำร้ายร่างกายเจ็บสาหัส ยอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบอาชีพแท็กซี่โดยรวมทำให้ผู้โดยสารไม่มั่นใจในความปลอดภัย วอนตำรวจเร่งติดตามรวบตัวดำเนินคดีโดยเร็ว
วันนี้ (3 เม.ย.) นายพุทธ สุวรรณที อายุ 49 ปี โชเฟอร์แท็กซี่พลเมืองดีได้ออกมาเปิดเผยขณะเดินทางกลับมาบ้านเกิด ที่บ้านหนองบัว ตำบลตูมใหญ่ อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ถึงนาทีระทึกที่ได้ช่วยเหลือ น.ส.น้อย (นามสมมติ) อายุ 27 ปี หญิงสาวชาวพม่าที่ถูกแท็กซี่หื่นไม่ทราบหมายเลขทะเบียนลวงไปข่มขืนบริเวณถนนเทียมร่วมมิตร (รฟม.ตัดใหม่) เขตห้วยขวาง แต่เหยื่อขัดขืนจึงถูกทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัสว่า ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 06.00 น.เศษ ได้ขับรถกลับจากส่งผู้โดยสารกำลังจะไปเติมก๊าซและจะกลับที่พัก
แต่ขณะขับรถพ้นจากซอย 13 ก็เห็นรถแท็กซี่สีเหลือง ยี่ห้อโตโยต้า ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับพุ่งออกมาจากศูนย์ซ่อม รฟม.อย่างรวดเร็ว ไม่นานก็เห็นหญิงสาววิ่งตามออกมาในสภาพเลือดท่วมตัวถูกมัดมือสองข้างติดกันมาขอความช่วยเหลือโดยพูดเป็นภาษาต่างชาติแต่พอสื่อสารเข้าใจ ด้วยความตกใจและสงสารจึงรีบเปิดประตูรถให้ขึ้นนั่งเบาะหลัง
จากนั้นหญิงสาวชาวพม่าคนดังกล่าวก็บอกให้ขับตามรถแท็กซี่คันนั้นไปแต่ไม่สามารถตามทัน จากนั้นจึงได้พาไปแจ้งตำรวจที่ สน.ห้วยขวางโดยที่ไม่ได้คิดค่าบริการใดๆ ทั้งได้ไปให้การเพื่อเป็นข้อมูลหลักฐานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
นายพุทธกล่าวต่อว่า ตั้งแต่ขับรถแท็กซี่มาตั้งแต่ปี 2549 จนถึงขณะนี้ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเอง ก็รู้สึกตกใจแต่ก็ดีใจที่ได้มีส่วนช่วยเหลือหญิงสาวคนดังกล่าว เพราะที่ผ่านมาก็เกิดข่าวเสียหายเกี่ยวกับรถแท็กซี่หลายครั้งแต่ก็ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อผู้มีอาชีพขับรถแท็กซี่อย่างแน่นอน เพราะจะทำให้ผู้โดยสารเกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัยในการใช้บริการรถแท็กซี่ ซึ่งที่ผ่านมาตามที่ปรากฏเป็นข่าวหลายๆ เหตุการณ์ก็ทำให้จำนวนผู้โดยสารน้อยรายได้ลดลงเหลือไม่ถึงวันละ 500 บาทอยู่แล้ว แต่ก็อยากวิงวอนผู้โดยสารหรือสังคมอย่าเหมารวมเพราะยังมีแท็กซี่ดีๆ อีกเยอะที่ต้องหารายได้เลี้ยงครอบครัว
ส่วนเหตุการณ์ในครั้งนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วด้วย