xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบึง-บ่อวิน ค้านการขยายถนนสายบึง-ปากร่วม หลังชาวบ้านเดือดร้อน(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ทางหลวงชนบท ชี้แจงถนนสายบึง-ปากร่วม ให้ประชาชนบึง-บ่อวินรับทราบ
ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านกว่า 200 คน รวมตัวคัดค้านโครงการขยายถนนสายบึง-ปากร่วม ระยะทางกว่า 12 กิโลเมตร วิ่งผ่ากลางแหล่งชุมชน สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนจำนวนมาก วอนพิจารณาเส้นทางอื่นแทน




วันนี้ (3 เม.ย.) นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานประชุมปัจฉิมนิเทศ โครงการขยายถนน ชบ.1032 ทล.7-บ.ปากร่วม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หรือเส้นทางบึง-ปากร่วม ระยะทาง 12.500 กิโลเมตร ณ ห้องประชุมโรงเรียนบึงศรีราชาพิทยาคม โดยมีชาวบ้านในเขตตำบลบึง และพื้นที่บ้านปากร่วม กว่า 200 คน

พร้อมด้วยตัวแทนอำเภอศรีราชา เทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ทหารรักษาความสงบแห่งชาติ อ.ศรีราชา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน โดยมีตัวแทนกรมทางหลวงชนบท และ บริษัท พีทีอี เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาโครงการนี้ เข้าร่วมชี้แจงรายละเอียดในครั้งนี้ ซึ่งภายในห้องประชุมมีชาวบ้านถือป้ายคัดค้านโครงการนี้ด้วย

นายคลังวิชญ์ อุทัยเรือง ผู้อำนวยการหมวดบำรุงทางหลวงชนบทบางละมุง กล่าวว่า โครงการถนนสาย ชบ.1032 แยก ทล.7-บ.ปากร่วม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หรือถนน ร.พ.ช. สายอ่าวอุดม(บึง)-ปากร่วม เป็นถนนเชื่อมระหว่างถนนทางหลวงชนบทสาย รย.3013 (บริเวณแยกปากร่วม)

โดยเป็นสถานที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรมจำนวนมากในพื้นที่อำเภอปลวกแดง ผ่านไปสู่ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 เชื่อมต่อไปยังท่าเรือแหลมฉบัง จึงเป็นเส้นทางการคมนาคมที่สามารถแบ่งเบาปริมาณจราจรในสายหลักได้ แต่ปัจจุบัน ถนนดังกล่าวมีความคับแคบ และมีปริมาณรถบรรทุกสัญจรผ่านแหล่งชุมชนจำนวนมาก ดังนั้น ทางกรมทางหลวงชนบท จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงถนนสายดังกล่าว

โดยถนนเดิมเป็นขนาด 2 ช่องจราจร ให้เป็น 4 ช่องจราจร เพื่อลดความแออัดของปริมาณจราจรที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งมีระยะทางประมาณ 12.500 กิโลเมตร ซึ่งรูปแบบถนนขนาด 4 ช่องจราจร กว้างช่องละ 3.50 เมตร มีไหล่ทางกว้างด้านละ 2.50 เมตร พร้อมรางตัววี สามารถจอดรถได้ มีเสาไฟฟ้า มีท่อระบายน้ำใต้ทางเท้าทั้ง 2 ด้าน มีพื้นที่วางแนวท่อประปาได้ มีกำแพงกันดินทั้ง 2 ด้าน มีไฟส่องสว่าง ตีเกาะสี กว้าง 1.00 เมตร รวมทาง 20.00 เมตร ส่วนในพื้นที่นอกเขตชุมชน จะมีถนนกว้างรวม 26 เมตร

นายคลังวิชญ์ กล่าวต่อไปว่า โดยในวันนี้เพื่อมานำเสนอผลการศึกษาโครงการด้านวิศวกรรม-จราจร พร้อมเสนอรูปแบบถนนโครงการ ผลการดำเนินงานการมีส่วนร่วมของประชาชน รายละเอียดการเวนคืน และผลการศึกษาด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น นอกจากนั้น เพื่อรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการนำไปประกอบการออกแบบให้เหมาะสมต่อไป

ด้าน ดร.ปริญ หล่อพิทยากร ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากโครงการนี้ กล่าวว่า บริเวณถนนสายดังกล่าวเป็นแหล่งชุมชนดั่งเดิม ซึ่งมีการขยับขยายมาโดยตลอด และเมื่อจะมาขยายเป็น 4 เลน ชาวบ้านจะได้รับผลกระทบทั้งหมด ที่สำคัญไม่คุ้มค่าทางด้านเศรษฐกิจ เศรษฐศาสตร์ และสังคมเลย

นอกจากนั้น บริเวณดังกล่าวมีผู้สูงอายุดั้งเดิมอาศัย และมีความผูกพันตรงจุดนี้จะมีผลกระทบต่อสภาพจิตใจอย่างแน่นอน “เส้นทางดังกล่าว เป็นเส้นทางภายในชุมชน โดยไม่เหมาะที่จะให้รถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่เข้ามาวิ่งในเส้นทางนี้ และถือว่าไม่มีความยุติธรรมกับชาวบ้านบริเวณดังกล่าวเลย” ดร.ปริญ กล่าว

นายอดุลย์ ขำทวี ชาวบ้านผู้เดือดร้อน กล่าวว่า ที่ผ่านมาเฟส 1 คือ บริเวณสี่แยกปากร่วม ไปมาบยางพร ซึ่งมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนไปแล้ว แต่ก็ไม่มีการชี้แจง หรือตอบคำถามอะไรชาวบ้านเลย โดยที่ชาวบ้านได้เสนอไปแล้วว่ามีทางเลี่ยงโดยไม่ต้องผ่านถนนในชุมชนเลย เช่น เส้นทางสนามกอล์ฟบูรพา (หนองแขวะ-บ่อวิน) หรือเส้นอินโดจีน แต่ทางหลวงชนบทไม่นำไปพิจารณา และยังดำเนินโครงการดังกล่าวต่อไป

ขณะนี้ชาวบ้านในเส้นทางนี้ (บึง-บ่อวิน) ไม่มีความเชื่อใจกรมทางหลวงชนบทอีกแล้ว เพราะในเฟส 1 ไม่มีการรับฟังคำชี้แจงของชาวบ้านเลย ดังนั้น โครงการนี้จะไม่ให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน โดยควรเลี่ยง หรือไปสำรวจเส้นทางอื่นแทน เพราะชาวบ้านดังกล่าวจะไม่ยอมอย่างเด็ดขาด

นายอดุลย์ กล่าวต่อไปว่า ทางชาวบ้านไม่ได้ขัดขวางความเจริญในพื้นที่ แต่บริเวณดังกล่าวไม่เหมาะที่จะขยายให้กว้างขึ้นถึง 20 เมตร และ 26 เมตร โดยเพียงมาปรับปรุงไหล่ทางเดิมที่มีอยู่แล้วให้กว้างขึ้น ส่วนปัญหาน้ำท่วมก็เพียงปรับปรุงทำท่อระบายน้ำเท่านั้นปัญหาน้ำท่วมก็หมดไป ชาวบ้านก็สามารถอยู่ได้โดยไม่เดือดร้อน แต่หากมาขยายถนนชาวบ้านจะเดือดร้อนจำนวนมาก

ในช่วงนี้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน กำลังรวมตัวล่ารายชื่อเพื่อยื่นเรื่องถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเตรียมร้องขอความเป็นธรรมต่อหน่วยงานระดับสูง ที่สามารถช่วยเหลือชาวบ้านที่กำลังจะได้รับความเดือดร้อนต่อไป
ชาวบ้านกว่า 200 คน ร่วมรับฟังการชี้แจงในครั้งนี้
ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยต่อโครงการนี้
เส้นทางนี้ จะมีการขยายให้กว้างขึ้นซึ่งเป็นแหล่งชุมชน ชาวบ้านจึงไม่เห็นด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น