ประจวบคีรีขันธ์ - เกิดเหตุนักธุรกิจชาวเบลเยียม กระโดดจากชั้นดาดฟ้าของโรงแรมกลางเมืองหัวหินเสียชีวิต พบเข้ามาทำธุรกิจในเมืองหัวหิน ได้ประมาณ 1 ปี ก่อนก่อเหตุยังทะเลาะวิวาทกับเจ้าของสำนักงานบัญชีในพื้นที่ เหตุทวงพาสปอร์ตคืนไม่ได้ เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกคืนวานนี้ (2 เม.ย.) ศูนย์วิทยุหัวหิน ได้รับแจ้งจากพนักงานโรงแรมไอซีหัวหิน ว่า มีชาวต่างชาติกำลังจะกระโดดลงมาจากชั้นดาดฟ้า หลังรับแจ้งจึงประสาน พ.ต.ท.เสมอ อยู่สำราญ รองผู้กำกับป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรหัวหิน พ.ต.ท.ชย พานะกิจ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยหัวหิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองหัวหิน เข้าตรวจสอบ และนำเบาะลมไปยังโรงแรมดังกล่าว
ไปถึงพบชายชาวเบลเยียม ที่กำลังยืนอยู่บนขอบระเบียงดาดฟ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเพื่อนชาวต่างชาติจึงพยายามเกลี้ยกล่อมไม่ให้กระโดดลงมาแต่ก็ไม่สำเร็จ พ.ต.ท.เสมอ อยู่สำราญ รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรหัวหิน จึงประสานขอเบาะลมขนาดใหญ่จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 เพิ่มเติมก่อนสั่งปิดถนนด้านหน้าโรงแรม เพื่อกันไม่ให้รถยนต์ที่ไม่เกี่ยวข้องผ่านเข้าออก
กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมง นักธุรกิจชาวเบลเยียมได้พุ่งตัวลงจากชั้นดาดฟ้ายังพื้นด้านหน้าโรงแรมห่างจากจุดที่วางเบาะลมประมาณ 3 เมตร ท่ามกลางความตกใจของชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวที่เฝ้าดูเหตุการณ์ โดยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยหัวหินได้เข้าปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งรักษายังโรงพยาบาลหัวหิน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
พ.ต.ท.เสมอ อยู่สำราญ รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรหัวหิน กล่าวว่าจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ชาวต่างชาติคนดังกล่าวเป็นชาวเบลเยียม ทราบชื่อคือ นายดีวอส จีออฟฟรอย ชาร์ล เรมอนด์ อายุ 34 ปี ซึ่งก่อนก่อเหตุได้ไปทวงพาสปอร์ตที่สำนักงานการบัญชีในซอยหัวหิน 41 แต่ไม่ได้จึงใช้ไม้เสียบลูกชื้นแทงเข้าที่บริเวณหน้าอกของหญิงสาวเจ้าของสำนักงานบัญชีจนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จากนั้นได้ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กฉ 9332 ประจวบคีรีขันธ์ มาจอดอยู่ที่หน้าโรงแรมดังกล่าวกระทั่งกระโดดลงมา
“นักธุรกิจชาวต่างชาติรายนี้เข้ามาลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ และร้านอาหารที่อำเภอหัวหิน ได้ประมาณ 1 ปี ส่วนสาเหตุการฆ่าตัวตายจะเร่งสืบสวนอย่างละเอียด พร้อมจะสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องอีกครั้ง” พ.ต.ท.เสมอ กล่าว