เชียงราย - ส่องโฮมสเตย์ท่าขันทอง ชายแดนเชียงแสน ติดน้ำโขง พบชาวบ้านรวมตัวทำกันมานานนับสิบปีจนขึ้นทำเนียบท็อปเท็นเมืองไทย มีบริการพร้อมสรรพทั้งพืชผักปลอดสาร ยันอินเทอร์เน็ต แถมมีทัวร์ล่องเรือขึ้นเกาะช้างตาย-เดินนวดฝ่าเท้ากลางป่าหิน
นายเศรษฐศักดิ์ พรหมมา ปลัดเทศบาลตำบลบ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย, นายเสถียร บุญปก ประธานคณะกรรมการบริหารจัดการโฮมสเตย์บ้านท่าขันทอง ม.3 ต.บ้านแซว ได้นำคณะสื่อมวลชน และบริษัททัวร์ลงพื้นที่ดูกิจการเมื่อเร็วๆ นี้
หลังโฮมสเตย์บ้านท่าขันทองได้รับรางวัลจากคณะกรรมการตัดสินรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (กินรี) ให้เป็นโฮมสเตย์ที่มีผู้นิยมมากที่สุดติด 1 ใน 7 ของประเทศ และรางวัลอื่นๆ ทั้งระดับจังหวัด-ประเทศติดต่อกันมาแล้วหลายครั้ง
โดยเริ่มต้นจากบ้านนายเสถียร ที่เปิดเป็นศูนย์ประสานงานโฮมสเตย์บ้านท่าขันทอง พร้อมจัดพิธีสู่ขวัญตามประเพณีพื้นบ้านให้กับคณะ ก่อนนำนั่งรถอีต๊อกพาชมตัวอย่างบ้านเรือนที่ชาวบ้านเปิดเป็นโฮมสเตย์ภายในหมู่บ้าน จำนวน 21 หลังคาเรือน
ซึ่งโฮมสเตย์แต่ละหลังมีเอกลักษณ์การดำเนินชีวิต-ตั้งชื่อบ้านแตกต่างกันไป เช่น บ้านชื่นจิต บ้านชิดชอบ บ้านหยก-อนันต์ บ้านเพชรพริ้ม บ้านปักใจ บ้านในฝัน ฯลฯ บางหลังอยู่ติดกับลำน้ำโขง ขณะที่หน้าบ้านทุกหลังจะมีโต๊ะวางน้ำดื่ม ผ้าเช็ด ผลไม้ ระบบอินเทอร์เน็ต หมายเลขโทรศัพท์สถานที่สำคัญ ฯลฯ ส่วนห้องพักก็ตกแต่งคล้ายห้องพักโรงแรมทั่วไป
นายเศรษฐศักดิ์กล่าวว่า หมู่บ้านท่าขันทองตั้งเป็นโฮมสเตย์มาได้ประมาณ 10 ปีแล้ว เพราะเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านมีวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์และส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม จึงรวมตัวกันพัฒนาโฮมสเตย์รองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการชมวิถีชีวิตชาวบ้านอย่างแท้จริง
โดยโฮมสเตย์ที่เป็นสมาชิกจะมีห้องพักหลังคาเรือนละตั้งแต่ 1-4 ห้อง รองรับผู้เข้าพักได้ตั้งแต่ 2-10 คนต่อห้อง มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตพร้อมสรรพ และสามารถรับประทานอาหารที่ชาวบ้านปรุงจากพืชผักปลอดสารพิษที่ปลูกไว้ได้ตามสะดวก
นายเศรษฐศักดิ์กล่าวอีกว่า ผู้ใช้บริการสามารถเลือกดูวิถีชีวิตเจ้าของโฮมสเตย์ หรือเที่ยวตามโปรแกรมที่โฮมสเตย์จัดขึ้นภายในหมู่บ้าน เช่น ศูนย์ประกอบอาหารพื้นบ้าน ศูนย์ผ้าทอ การสีข้าวด้วยมือ ฯลฯ
นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมล่องเรือแม่น้ำโขงจากหมู่บ้าน-เกาะช้างตาย ซึ่งเป็นป่าแขม-หาดหินขนาดเล็ก ดินแดนของไทยติดกับท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 2 ซึ่งสามารถเดินเพื่อนวดฝ่าเท้าได้ โดยบนเกาะชาวบ้านจะมีบริการทำอาหารให้ เช่น หมูทอด ข้าวหลาม ฯลฯ ด้วย
นายเศรษฐศักดิ์กล่าวว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวเริ่มรู้จักหมู่บ้านท่าขันทองโฮมสเตย์มากขึ้น ล่าสุดปีที่ผ่านมามีผู้ใช้บริการกว่า 3,000 คน โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว และเดือน มิ.ย.-ก.ค.นักท่องเที่ยวจะนิยมมากันเป็นกลุ่มตั้งแต่ 1-3 คนไปจนถึง 80 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้นิยมสัมผัสวิถีชีวิตแท้จริง ศึกษาดูงาน วิจัย ชาวต่างชาติ เป็นต้น
“โฮมสเตย์บ้านท่าขันทองต้องมีการศึกษาเรียนรู้เพื่อพัฒนาการบริการให้ดียิ่งขึ้น ทั้งไปอบรมตามกิจกรรมงานต่างๆ รวมถึงสร้างเครือข่ายเพื่อเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวกับหมู่บ้าน ซึ่งตรงนี้เรายังขาดอยู่ ทำให้ยังไม่มีความยั่งยืน แต่ก็มีบริษัททัวร์มาติดต่อมากขึ้น ทำให้อนาคตโฮมสเตย์จะมีความยั่งยืน และคนรุ่นลูกหลานที่ไปทำงานต่างถิ่นจะได้กลับมาทำงานในพื้นที่ตัวเองได้ต่อไป” นายเศรษฐศักดิ์กล่าว
ด้านนายเสถียรกล่าวว่า โฮมสเตย์บ้านท่าขันทองคิดค่าบริการเพียงคืนละ 300 บาทต่อคน หรือรวมอาหารก็คิดราคาคนละ 400 บาท ส่วนการพาทัวร์ไปตามจุดต่างๆ คิดราคาจุดละ 500 บาท โดยมีบริการรถอีต๊อกเพื่อให้สัมผัสวิถีชีวิตที่แท้จริง และหากต้องการล่องแม่น้ำโขงไปยังเกาะช้างตายก็คิดค่าบริการให้คนเรือเที่ยวละ 1,000 บาท และหากต้องการอาหารบนเกาะ เช่น หมูทอด ฯลฯ ก็เพิ่มอีก 500 บาท
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อประสานล่วงหน้าเพื่อให้ชาวบ้านเตรียมตัวได้ที่ นายเศรษฐศักดิ์ โทร. 08-1952-7058 หรือตนที่หมายเลข 08-6194-2647